รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เตรียมเจรจากับผู้ประกอบการสินค้า 50 รายการ ที่เคยปรับขึ้นราคาช่วงน้ำมันแพง แต่ถึงขณะนี้ไม่ยอมปรับลดราคาลง อาทิ ของใช้อุปโภค บริโภค อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ให้ลดราคาจำหน่ายลง 3 เดือน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) วันที่ 30 ม.ค.นี้ และเตรียมนำเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบใน ครม. วันที่ 3 ก.พ. ต่อไป
ทั้งนี้สินค้า 50 รายการ
แบ่งเป็นหมวดอาหารเครื่องดื่ม และหมวดของใช้ประจำวันมากสุด 27 รายการ โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ นมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยูเอชที ครีมเทียมข้นหวาน กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึก ผลไม้บรรจุกระป๋อง น้ำตาลทราย เกลือ ซอสปรุงรสถั่วเหลือง ซอสพริก น้ำจิ้มไก่ ผงชูรส แป้งสาลี วุ้นเส้น เต้าเจี้ยวบรรจุภาชนะ กะทิบรรจุภาชนะ
สำหรับหมวดของใช้ประจำวัน
ได้แก่ ครีมนวดผม เจลแต่งผม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ แปรงสีฟัน ก้านสำลีอนามัย ยากำจัดยุงและแมลง หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียว กระดาษชำระ
ส่วนสินค้าที่เหลืออีก 23 รายการ อยู่ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า
ได้แก่ พัดลม เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเล่นวิทยุ-เทป-คอมแพ็กดิสก์ หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง ได้แก่ ยางรถยนต์ หมวดวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา ปูนซีเมนต์ ไม้อัด สีทาบ้าน แท็งก์น้ำ ถังเก็บน้ำ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น แก๊สหุงต้ม (บริการขนส่ง) พลาสติกห่ออาหาร แก๊สรถยนต์ หมวดยารักษาโรค ได้แก่ ยารักษาโรค ยาแก้ไข้หวัด ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ หมวดปัจจัยการเกษตร ได้แก่ รถไถ ตาข่ายกรองแสง จอบ (ราคาไม่รวมด้าม) เสียม (รวมด้าม) และยาปราบศัตรูพืช
“นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งจัดการสินค้าที่ยังไม่ปรับลดราคาลงมา ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชน เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมากแล้ว โดยเตรียมรวบรวมรายชื่อทั้งหมด 50 รายการ ที่เคยปรับขึ้นราคาไป แต่ยังไม่ลดราคาลงมา เสนอต่อนายอภิสิทธิ์ให้รับทราบในการประชุม ครม. อังคารหน้า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกระทรวงฯได้เจรจากับผู้ประกอบการสินค้า 50 รายการ ให้ปรับลดราคาลงมา และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 30 ม.ค.นี้ ที่จะมีการประชุมปฏิบัติการราคาสินค้าระหว่างนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และผู้ประกอบการสินค้ากว่า 200 ราย เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน”
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน รมว.พาณิชย์จะประกาศแผนการใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท
เพื่อใช้ลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ผ่านโครงการร้านธงฟ้า บริการธงฟ้า สินค้าเกษตรธงฟ้า และเอาต์เล็ตธงฟ้า ที่นำสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสระผม น้ำยาล้างจาน รวมถึงอาหาร ไข่ไก่ ข้าวถุง เนื้อหมู เนื้อไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาจำหน่ายถูกกว่าท้องตลาด 30-50% พร้อมทั้งเปิดร้านธงฟ้าราคาเดียว 60 บาท ตามสถานที่ราชการ โรงเรียน โรงแรม สนามบิน สหกรณ์ทหาร
นอกจากนี้เปิดบริการธงฟ้า โดยร่วมมือกับอู่รถแท็กซี่ โรงแรม โรงพยาบาล และธุรกิจบันเทิง นำบริการต่าง ๆ มาลดราคา เช่น แท็กซี่สีฟ้า จะขอให้แท็กซี่ลดค่าบริการทันที 5 บาท จากเดิมเรียกเก็บกิโลเมตรแรก 35 บาทเหลือ 30 บาท ซึ่งขณะนี้ได้หารือกับผู้ให้บริการรถแท็กซี่แล้ว มีรถเข้าร่วมประมาณ 30,000 คัน โรงแรมสีฟ้าจะลดค่าที่พัก 50% หลายแห่งทั่วประเทศ ด้านโรงพยาบาลสีฟ้าจะลดค่าบริการรักษาพยาบาล คาร์โก้สีฟ้าลดค่าขนส่งสินค้าลง 20%.
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เตรียมเจรจากับผู้ประกอบการสินค้า 50 รายการ ที่เคยปรับขึ้นราคาช่วงน้ำมันแพง แต่ถึงขณะนี้ไม่ยอมปรับลดราคาลง อาทิ ของใช้อุปโภค บริโภค อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะ ให้ลดราคาจำหน่ายลง 3 เดือน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์กช็อป) วันที่ 30 ม.ค.นี้ และเตรียมนำเสนอให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบใน ครม. วันที่ 3 ก.พ. ต่อไป
ทั้งนี้สินค้า 50 รายการ
แบ่งเป็นหมวดอาหารเครื่องดื่ม และหมวดของใช้ประจำวันมากสุด 27 รายการ โดยหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ นมถั่วเหลืองพร้อมดื่มยูเอชที ครีมเทียมข้นหวาน กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำดื่มบรรจุภาชนะผนึก ผลไม้บรรจุกระป๋อง น้ำตาลทราย เกลือ ซอสปรุงรสถั่วเหลือง ซอสพริก น้ำจิ้มไก่ ผงชูรส แป้งสาลี วุ้นเส้น เต้าเจี้ยวบรรจุภาชนะ กะทิบรรจุภาชนะ
สำหรับหมวดของใช้ประจำวัน
ได้แก่ ครีมนวดผม เจลแต่งผม ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น ผลิตภัณฑ์ฟอกผ้าขาว น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ แปรงสีฟัน ก้านสำลีอนามัย ยากำจัดยุงและแมลง หมวดกระดาษและผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กระดาษพิมพ์เขียว กระดาษชำระ
ส่วนสินค้าที่เหลืออีก 23 รายการ อยู่ในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า
ได้แก่ พัดลม เครื่องดูดฝุ่น เครื่องเล่นวิทยุ-เทป-คอมแพ็กดิสก์ หมวดบริภัณฑ์ขนส่ง ได้แก่ ยางรถยนต์ หมวดวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ กระเบื้องมุงหลังคา ปูนซีเมนต์ ไม้อัด สีทาบ้าน แท็งก์น้ำ ถังเก็บน้ำ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น แก๊สหุงต้ม (บริการขนส่ง) พลาสติกห่ออาหาร แก๊สรถยนต์ หมวดยารักษาโรค ได้แก่ ยารักษาโรค ยาแก้ไข้หวัด ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ หมวดปัจจัยการเกษตร ได้แก่ รถไถ ตาข่ายกรองแสง จอบ (ราคาไม่รวมด้าม) เสียม (รวมด้าม) และยาปราบศัตรูพืช
“นายกรัฐมนตรีกำชับให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งจัดการสินค้าที่ยังไม่ปรับลดราคาลงมา ซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชน เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมากแล้ว โดยเตรียมรวบรวมรายชื่อทั้งหมด 50 รายการ ที่เคยปรับขึ้นราคาไป แต่ยังไม่ลดราคาลงมา เสนอต่อนายอภิสิทธิ์ให้รับทราบในการประชุม ครม. อังคารหน้า อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นกระทรวงฯได้เจรจากับผู้ประกอบการสินค้า 50 รายการ ให้ปรับลดราคาลงมา และจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 30 ม.ค.นี้ ที่จะมีการประชุมปฏิบัติการราคาสินค้าระหว่างนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ และผู้ประกอบการสินค้ากว่า 200 ราย เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชน”
นอกจากนี้ ในวันเดียวกัน รมว.พาณิชย์จะประกาศแผนการใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท
เพื่อใช้ลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ผ่านโครงการร้านธงฟ้า บริการธงฟ้า สินค้าเกษตรธงฟ้า และเอาต์เล็ตธงฟ้า ที่นำสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สบู่ ผงซักฟอก ยาสระผม น้ำยาล้างจาน รวมถึงอาหาร ไข่ไก่ ข้าวถุง เนื้อหมู เนื้อไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มาจำหน่ายถูกกว่าท้องตลาด 30-50% พร้อมทั้งเปิดร้านธงฟ้าราคาเดียว 60 บาท ตามสถานที่ราชการ โรงเรียน โรงแรม สนามบิน สหกรณ์ทหาร
นอกจากนี้เปิดบริการธงฟ้า โดยร่วมมือกับอู่รถแท็กซี่ โรงแรม โรงพยาบาล และธุรกิจบันเทิง นำบริการต่าง ๆ มาลดราคา เช่น แท็กซี่สีฟ้า จะขอให้แท็กซี่ลดค่าบริการทันที 5 บาท จากเดิมเรียกเก็บกิโลเมตรแรก 35 บาทเหลือ 30 บาท ซึ่งขณะนี้ได้หารือกับผู้ให้บริการรถแท็กซี่แล้ว มีรถเข้าร่วมประมาณ 30,000 คัน โรงแรมสีฟ้าจะลดค่าที่พัก 50% หลายแห่งทั่วประเทศ ด้านโรงพยาบาลสีฟ้าจะลดค่าบริการรักษาพยาบาล คาร์โก้สีฟ้าลดค่าขนส่งสินค้าลง 20%.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
