ร้านทองเยาวราชแทบแตก เปิดวันแรกคนตื่นทองจองคิวแน่น ทุบยอดขายสูงสุดประวัติการณ์ทะลุหมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายทองคำย่านเยาวราชช่วงเปิดทำการวันแรก หลังจากหยุดปิดร้านช่วงตรุษจีน 2 วัน
ระหว่าง 26-27 ม.ค. ว่าประชาชนและนักเก็งกำไรรายย่อยมาแห่รอขายทองคำตามหน้าร้านใหญ่อย่างเนืองแน่น ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ทำให้ร้านทองต้องแจกบัตรคิวขายทองก่อนที่ร้านจะเปิดทำการเวลา 09.30 นาฬิกา และตลอดทั้งวันประชาชนก็ยังเข้ามาขายทองแน่นจนหางแถว ออกมาอยู่นอกร้าน โดยราคาทองคำในช่วงเช้าปรับเพิ่มขึ้น 50 บาท จากเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา สำหรับราคาทองคำวันที่ 28 ม.ค. 52 ยังผันผวนตามราคาทองคำในตลาดโลก โดยราคาขายทองคำแท่งซื้อเข้า 14,550 บาท ขายออก 14,650 บาท ทองรูปพรรณไม่รวมค่ากำเหน็จขายบาทละ 14,550 บาท ซื้อเข้า 14,235 บาท
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า การซื้อขายทองคำวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งร้านทองมา
โดยตลอดทั้งวันผู้ค้าทองจะต้องรับซื้อเกิน 1 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ม.ค. ที่รับซื้อประมาณ 6-7 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการรับซื้อจากนักเก็งกำไร ที่ขายทองคำแท่ง 95% ขณะที่ทองรูปพรรณมีเพียง 5% เท่านั้น ต่างจากแต่ก่อนที่รับซื้อทองแท่ง 10% แต่ทองรูปพรรณมีถึง 90%
“ผู้ค้าร้านทองย่านเยาวราชได้ขอเบิกเงินสดจากธนาคารไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อรอรับซื้อทองคำช่วงเช้าซึ่งผู้ขายจะได้รับเงินสด แต่หากคนยังขายมากเงินสดไม่พอก็อาจออกเช็คให้แทน และหากคนยังแห่ขายมากเช่นนี้อีก 2-3 วัน เป็นไปได้ว่า ร้านทองย่านเยาวราชอาจต้องปิดรับซื้อทองแท่งเพราะไม่มีเงินรับซื้อพอ เนื่องจากกว่าที่ร้านทองจะได้เงินจากการส่งออกไปต่างประเทศต้องใช้เวลานาน 7 วัน นอกจากนี้ผู้ค้าทองจะปิดรับซื้อทองคำแท่งในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย เพราะเข็ดไม่อยากเสี่ยงขาดทุนเหมือนวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีราคาอ้างอิงและตลาดให้ส่งออก”
นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทยนิยมซื้อทองคำมากช่วงนี้ เพราะต้องการเก็งกำไรเนื่องจากหลายเดือนหลังราคาทองคำผันผวนมาก เพียง 1 เดือน ซื้อได้กำไรบาทละ 1,000 บาท
ซึ่งราคาที่ผันผวนในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้ค้าทองต้องขาดทุนมาก อย่างช่วงเช้าวันที่ 28 ม.ค. ขาดทุนไปกว่า 100 ล้านบาทเพราะเปลี่ยนราคาไม่ทัน จึงอยากให้ผู้บริโภคเห็นใจว่าที่ร้านทองปิดร้านไม่ได้เอาเปรียบผู้บริโภค แต่เป็นเพราะไม่มีราคาตลาดโลกอ้างอิง และราคาผันผวนเร็วมาก ขณะที่แนวโน้มราคาอาจขยับถึงบาทละ 15,000 บาทได้ส่วนกรณีเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสำรองเงินสดล่วงหน้าให้กับร้านค้าทอง โดยนำทองคำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นประเด็นที่พูดเล่น และ เป็นไปไม่ได้ เพราะต้องตรวจสอบอีกว่าจะเป็น ทองคำจริงหรือไม่
ด้าน นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เรียกสมาคมค้าทองคำมาหารือเพื่อขอความร่วมมือและสอบถามเหตุผลในการหยุดให้บริการช่วงตรุษจีน
เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ว่าร้านขายทองคำย่านเยาวราชปิดทำการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จนทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน โดยนายยรรยง กล่าวว่า กรมเตรียมออกแนวทางปฏิบัติ (ไกด์ ไลน์) การค้าขายทองคำใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ค้าและผู้บริโภค
ทั้งนี้ไกด์ไลน์ จะขอความร่วมมือให้ ร้านทองจะต้องแจ้งวันเปิด-ปิดให้กรมทราบล่วงหน้าก่อนปิดร้าน เพิ่มจากเดิม 1 วัน
เพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ค้ารายย่อยวางแผนซื้อขายล่วงหน้าได้ แต่ขณะนี้ยังไม่กำหนดว่ากี่วันเพราะต้องรอการประชุมของสมาชิกผู้ค้าทองก่อน นอกจากนี้บังคับให้ใช้เครื่องชั่งมาตรฐานด้วยตัวเลขทศนิยม 2 หลัก และขอความร่วมมือให้คิดค่ากำเหน็จเหมาะสมบาทละ 400-900 บาท และการออกใบจองซื้อทองคำมาตรฐาน ที่ต้องระบุชื่อผู้ซื้อ ผู้ขาย ราคา จำนวน วัน เวลา ที่ชัดเจน และห้ามโอนสิทธิใบจองเพื่อป้องกันการเก็งกำไร ส่วนราคาซื้อขายทองคำจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก
ส่วน นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ธปท.ไม่สามารถรับจำนำทองคำกับร้านค้าทองได้ เพราะผิดกฎหมาย ธปท. ที่ห้ามทำธุรกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากร้านค้าทองเป็นนิติบุคคล แต่ถ้าทำผ่านธนาคารพาณิชย์ทำได้