จตุจักรเพิ่มวันศุกร์จำหน่ายสินค้าดันสนามหลวงจัดที่ขายของ

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าววันนี้ (27 ม.ค.) ภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) เกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ

ว่าเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือการเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ค้าขายรายย่อย โดยพิจารณาให้มีการขยายพื้นที่จุดผ่อนผันที่มีอยู่เดิม จาก120 ตารางเมตร เป็น 150 ตารางเมตรในจุดผ่อนผันทั้งหมด 677 จุด และเพิ่มเวลาในการค้าขายในแต่ละจุดที่เหมาะสม  

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาให้มีการเพิ่มวันขายสินค้าของตลาดนัดจตุจักรเป็น 3 วันคือศุกร์-เสาร์-อาทิตย์

รวมถึงการปรับพื้นที่จอดรถบริเวณด้านหลังเป็นตลาดนัดขนาดย่อยให้กับผู้ค้าอีกด้วย ส่วนจะขายสินค้าประเภทใด วันไหนนั้นจะต้องมีการศึกษาผลกระทบอีกครั้งก่อน ในส่วนของพื้นที่ท้องสนามหลวงบางส่วนก็จะจัดพื้นที่สำหรับขายสินค้าในบางเวลาแต่ไม่เป็นตลาดถาวรเพื่อให้การค้าขายสินมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและจะได้มีการเตรียมการดำเนินการต่อไป ส่วนการจัดหาพื้นที่ค้าขายในแต่ละเขตอยู่ระหว่างรอการรายงานจากเขตต่างๆ  เบื้องต้นหากพื้นที่ใดที่สามารถดำเนินการได้ให้ลงมือทำทันที  

ม.ร.ว. สุขุมพันธ์  กล่าวถึงการขอตั้งงบประมาณกลางปี 2,000 ล้านบาทเพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนข้อเสนอบางอย่างเพื่อให้เงินถึงมือประชาชนให้เร็วที่สุด

ส่วนสินค้าราคาแพงที่เป็นปัญหาสำหรับผู้บริโภคนั้น จะฟื้นฟูโครงการข้าวแกงราคาถูกของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีต ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่สามารถทำให้เงินหมุนเวียน 200 ล้านบาท  ได้ช่วยเหลือประชาชนเป็นบางส่วน โดยจะปรับราคาสินค้าขึ้นจาก15 บาทเป็น 20 บาทเพื่อให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจ และจะส่งเสริมให้มีสินค้าอุปโภค บริโภคราคาถูกและราคาประหยัด อาทิ น้ำมัน ข้าวแปลงสีฟันยาสีฟัน กระดาษชำระเป็นสินค้าราคาถูก ซึ่งจะได้ประสานกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่สามารถขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่าปกติได้ โครงการดังกล่าวจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการที่ท้องสนามหลวงและรณรงค์ให้มีการขายสินค้าราคาประหยัดเป็นที่แรก พร้อมกับการแจกคู่มือการทำอาหารอร่อยถูกหลักโภชนาการ และราคาไม่แพง และจัดให้มีการตรวจสุขภาพฟรีสำหรับประชาชนด้วย