คลอด ´แฝดสยาม´ เพศหญิงอกติดกัน 12 นาทีตายแม่รอด
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 มี.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ห้องผ่าตัดชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.อุทัยธานี เนื่องจากทราบว่า น.พ.เพิ่มเกียรติ ตั้งเจริญศิลป์ สูตินรีแพทย์ และ น.พ.กิตติชัย อุรุวรรณกุล กุมารแพทย์ กำลังผ่าตัดทำคลอดให้กับนางบังอร อ่อนผาง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 11 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ซึ่งตั้งครรภ์ทารกแฝดสยาม ลำตัวติดกัน โดยมีญาติๆ ของนางบังอรจำนวน 4-5 คน นั่งรอลุ้นผลการผ่าตัดด้วยความกังวลใจ
หลังการผ่าตัด 55 นาที พบว่าทารกที่ผ่าตัดออกมาเป็นแฝดเพศหญิงทั้งคู่ สภาพร่างกายท่อนบนแยกเป็น 2 ศีรษะ หันหน้าเข้าหากันคล้ายกอดกัน มีแขน 4 ข้าง ขา 4 ข้าง มีหัวใจ 1 ดวง ลำตัวติดกันตั้งแต่หน้าอกถึงเหนือ สะดือเล็กน้อย แต่ผนังหน้าท้องโหว่ อวัยวะภายในทั้งตับ ปอด กระเพาะอาหาร และลำไส้ ออกมากองอยู่ด้านนอก นํ้าหนักรวมประมาณ 6,000 กรัม หลังลืมตาดูโลกได้เพียง 12 นาที ก็เสียชีวิตลงทั้งคู่ ส่วนแม่เด็กปลอดภัย
นางส้มผล คณฑา อายุ 53 ปี ป้าของนางบังอร เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้าสลดว่า นางบังอรเป็นลูกของน้องสาวที่ตนขอมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ ได้แต่งงานอยู่กินกับนายปทุม หอมหวน อายุ 40 ปี อาชีพทำนาและเลี้ยงวัว นานกว่า 10 ปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส มีลูกสาวคนแรกชื่อ ด.ญ.ปาวีณา หอมหวน อายุ 10 ขวบ กระทั่งตั้งครรภ์ทารกแฝด และได้ฝากครรภ์ไว้ที่คลินิกเพิ่มเกียรติการแพทย์ จนใกล้ครบกำหนดคลอด มีอาการเจ็บท้องคลอด จึงพาไปหาหมอทำอัลตร้าซาวด์ พบว่าทารกในครรภ์เป็นแฝดลำตัวติดกัน จึงส่งไปทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ที่ รพ.พระราม 9 กรุงเทพฯ รู้ว่าทารกมีสภาพผิดปกติจึงกลับไปทำใจที่บ้านก่อนจะทำการผ่าตัดทารกออกมา
นางส้มผลกล่าวต่อว่า ส่วนที่นางบังอรคลอดทารกฝาแฝดนั้น อาจเป็นเพราะญาติข้างแม่ของนางบังอรมีลูกแฝดชายเกิดมาแล้วหลายคู่ ร่างกายสมบูรณ์มีชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ส่วนญาติของนายปทุมก็มีลูกแฝด 3 คู่ แต่เป็นเพศหญิง หลังคลอดจะมีฝาแฝดคนหนึ่งรอด คนหนึ่งเสียชีวิต ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ส่วนการจัดการศพทารกฝาแฝด ทางญาติตกลงมอบให้ทาง รพ.อุทัยธานี ไว้เพื่อทำการศึกษา และจะกลับไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ทารกฝาแฝดในภายหลัง
ทางด้าน น.พ.เพิ่มเกียรติ ตั้งเจริญศิลป์ แพทย์เจ้าของไข้ เผยว่า นางบังอรมีกำหนดคลอดวันที่ 12 มี.ค. แต่เกิดเจ็บท้องก่อนกำหนดถูกส่งมาโรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ. แต่มีเหตุผิดปกติ เนื่องจากน้ำคร่ำยังไม่เดิน จึงทำอัลตร้าซาวด์ พบทารกเป็นเด็ก แฝดสยาม ลำตัวติดกัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะผ่าตัดแยกเด็กได้หรือไม่ จึงปรึกษาญาติส่งไปทำอัลตร้าซาวด์ 4 มิติ ที่ รพ.พระราม 9 ถึงได้รู้ว่าทารกมีหัวใจดวงเดียว อวัยวะภายในอยู่นอกช่องท้อง คลอดแล้วมีโอกาสรอดน้อย จึงให้ญาติส่งนางบังอร กลับมาผ่าตัดที่ รพ.อุทัยธานี
แพทย์เจ้าของไข้กล่าวต่อว่า แพทย์ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กได้ เนื่องจากมีอวัยวะภายในอยู่ด้านนอก และทารกคนหนึ่งมีเนื้องอกออกจากไขสันหลังย้อนไปถึงก้น เรื่องนี้เป็นความบังเอิญ ไม่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธุ์ มีเพียง 1 ต่อ 200,000 ราย สาเหตุที่เกิดขึ้นจากภาวการณ์ตั้งครรภ์ของมารดา หลังมีการปฏิสนธิแล้ว ไข่แบ่งตัวช้าเกิน 12 วัน หากแยกตัวก่อน 12 วัน เด็กจะแยกตัวเป็นฝาแฝด 2 คน เรื่องที่เกิดขึ้นต้องชมเชยทีมแพทย์อัลตร้าซาวด์ของ รพ.อุทัยธานี ถ่ายภาพให้เห็นล่วงหน้า ทำให้รู้ว่าควรจะส่งผู้ป่วยไปตรวจเพื่อหาความชัดเจนในการผ่าตัดช่วยแม่อย่างปลอดภัย ญาติมีโอกาสทำใจล่วงหน้าว่าโอกาสที่เด็กจะรอดมีน้อยมาก และไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็นในการผ่าตัดแยกร่างเด็กออกจากกัน ส่วนค่าใช้จ่ายผู้ป่วยใช้บัตรทอง 30 บาท มีการส่งตัวตามลำดับจากโรงพยาบาลในพื้นที่ จึงไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ นอกจากค่าเครื่องมือพิเศษทางการแพทย์บางอย่าง