นายวรพร ตั้งสง่าศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและสนับสนุนการบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงปริมาณสำรองธนบัตรในช่วงเทศกาลตรุษจีนระหว่างวันที่ 12 ม.ค. ถึง 26 ม.ค. ว่า
มีปริมาณ 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการเบิกจ่าย 130,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวแต่เชื่อว่าไม่ได้ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดลง ซึ่งปริมาณธนบัตรที่สำรองส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรชนิด 100 บาท และชนิด 1,000 บาทมากสุดประมาณชนิดละ 100 ล้านฉบับที่เหลือเป็นธนบัตรชนิดราคา 500 บาท 50 บาท และ 20 บาท จากปริมาณธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ 900,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการต่อต้านธนบัตรปลอมเชิงรุกนั้น จะเน้นให้ความรู้กับร้านค้าปลีกโมเดิร์นเทรด ทั่วประเทศเกี่ยวกับวิธีการดูธนบัตรปลอมมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงานแคชเชียร์ จากเดิมที่เน้นให้ความรู้กลุ่มครูและนักเรียนเป็นหลัก เพราะเห็นว่าแคชเชียร์เป็นจุดสำคัญที่มีการรับจ่ายธนบัตร ซึ่งหากได้ผลจะขยายไปยังร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศ ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะนำร่องร้านค้าปลีกในภาคกลางและหัวเมืองใหญ่ ๆ ในต่างจังหวัด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ก.พ.นี้ หรือ มี.ค.นี้
รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทยแจ้งว่า
ธนาคาร ได้จัดเตรียมธนบัตรใหม่ 6,826 ล้านบาท เพื่อให้ประชนแลกเงินไปใช้เทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ได้เตรียมจำนวนเงินสดไว้รองรับการเบิกของประชาชน 4,794 ล้านบาท และสำรองเงินเครื่องเอทีเอ็มอีก 2,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากธนาคารทาหารไทยว่า
เตรียมเงินสำรอง 10,000 ล้านบาท โดยเป็นธนบัตรใหม่ 4,703 ล้านบาท และสำรองในเครื่องเอทีเอ็ม 6,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่า
ได้เตรียมสำรองเงินสดไว้จำนวน 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเขตกรุงเทพ 12,500 ล้านบาท และต่างจังหวัด 7,500 ล้านบาท สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดว่าประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยตามความจำเป็น โดยปริมาณการใช้เงินคงจะไม่มากหรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มั่นใจเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าของเซ่นไหว้เจ้านั้นจะลดขนาดลง เช่น จากเดิมซื้อไก่ตัวละ 100 บาท เหลือเพียง 80 บาท และซื้อเครื่องไหว้เจ้าครบตามพิธีเท่านั้น.
มีปริมาณ 300,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.8% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีการเบิกจ่าย 130,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวแต่เชื่อว่าไม่ได้ทำให้การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในช่วงเทศกาลตรุษจีนลดลง ซึ่งปริมาณธนบัตรที่สำรองส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรชนิด 100 บาท และชนิด 1,000 บาทมากสุดประมาณชนิดละ 100 ล้านฉบับที่เหลือเป็นธนบัตรชนิดราคา 500 บาท 50 บาท และ 20 บาท จากปริมาณธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ 900,000 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าโครงการต่อต้านธนบัตรปลอมเชิงรุกนั้น จะเน้นให้ความรู้กับร้านค้าปลีกโมเดิร์นเทรด ทั่วประเทศเกี่ยวกับวิธีการดูธนบัตรปลอมมากขึ้น โดยเฉพาะพนักงานแคชเชียร์ จากเดิมที่เน้นให้ความรู้กลุ่มครูและนักเรียนเป็นหลัก เพราะเห็นว่าแคชเชียร์เป็นจุดสำคัญที่มีการรับจ่ายธนบัตร ซึ่งหากได้ผลจะขยายไปยังร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศ ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะนำร่องร้านค้าปลีกในภาคกลางและหัวเมืองใหญ่ ๆ ในต่างจังหวัด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือน ก.พ.นี้ หรือ มี.ค.นี้
รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทยแจ้งว่า
ธนาคาร ได้จัดเตรียมธนบัตรใหม่ 6,826 ล้านบาท เพื่อให้ประชนแลกเงินไปใช้เทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ได้เตรียมจำนวนเงินสดไว้รองรับการเบิกของประชาชน 4,794 ล้านบาท และสำรองเงินเครื่องเอทีเอ็มอีก 2,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากธนาคารทาหารไทยว่า
เตรียมเงินสำรอง 10,000 ล้านบาท โดยเป็นธนบัตรใหม่ 4,703 ล้านบาท และสำรองในเครื่องเอทีเอ็ม 6,000 ล้านบาท
รายงานข่าวจากธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่า
ได้เตรียมสำรองเงินสดไว้จำนวน 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเขตกรุงเทพ 12,500 ล้านบาท และต่างจังหวัด 7,500 ล้านบาท สำหรับเทศกาลตรุษจีนปีนี้ คาดว่าประชาชนจะจับจ่ายใช้สอยตามความจำเป็น โดยปริมาณการใช้เงินคงจะไม่มากหรือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มั่นใจเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าของเซ่นไหว้เจ้านั้นจะลดขนาดลง เช่น จากเดิมซื้อไก่ตัวละ 100 บาท เหลือเพียง 80 บาท และซื้อเครื่องไหว้เจ้าครบตามพิธีเท่านั้น.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
