มูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินติงมาตรการกระตุ้นซื้ออสังหาฯ
หวั่นผลักดันประชาชนซื้อเกินกำลัง อาจกระทบการผ่อนชำระ กลายเป็นปัญหาระยะยาว ด้านอุตฯ ยานยนต์ เสนอรัฐบาลใช้มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อขายรถยนต์ หลังธุรกิจประสบปัญหา จนอาจเลิกจ้างงานถึง 4 หมื่นคนในปีนี้
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อวันที่ 19 มกราคม มีเนื้อหาโดยรวม เป็นการเสนอแนวคิดต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่าไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะกระตุ้นการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีความพร้อมด้านการเงินมากพอ
นายโสภณให้เหตุผลว่า
ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งมีความฝืดเคือง ความไม่แน่นอนในทิศทางการลงทุน และราคาทรัพย์สินอาจหยุดนิ่ง ผู้ซื้อบ้านที่ไม่พร้อมด้านการเงิน จึงไม่ควรได้รับการกระตุ้นให้ซื้อที่อยู่อาศัย ด้วยการจูงใจจากมาตรการประหยัดเพียงเล็กๆ น้อยๆ เพราะหากเศรษฐกิจตกต่ำต่อเนื่อง จะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงทางการเงินให้แก่ผู้ซื้อกลุ่มนี้ ที่อาจได้รับผลกระทบจากรายได้ และไม่สามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้ ทำให้เกิดปัญหาต่อเนื่องในระยะยาว
ทั้งนี้ ส่วนสำคัญที่รัฐบาลควรดำเนินการ ก็คือ การพัฒนาความมั่นคงของตลาดในระยะยาว ซึ่งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ซื้อบ้าน ทำให้ตลาดเติบโตอย่างยั่งยืน เช่น รัฐบาลควรบังคับใช้พระราชบัญญัติการดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ. 2551 หรือการคุ้มครองเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้านอย่างทั่วหน้า แทนที่จะให้เป็นแบบสมัครใจเช่นในปัจจุบัน การควบคุมวิชาชีพโดยการขึ้นทะเบียนนักวิชาชีพ เช่น ผู้รับเหมาสร้างบ้าน ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ผู้บริหารทรัพย์สิน ตัวแทนนายหน้า และมาตรการด้านข้อมูล เช่น ข้อมูลราคาที่จดทะเบียนซื้อขายทั่วประเทศ ควรเปิดเผยทั่วไป
ด้าน ดร.สมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า
ได้เชิญผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์เข้าหารือ เพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคที่เกิดกับภาคธุรกิจดังกล่าว และนำมาพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งจะต้องประกอบด้วยหลายหน่วยงาน สศค.จึงรับหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ ข้อมูลจากผู้ประกอบการ ทำให้พบว่าปัจจุบันธุรกิจกำลังประสบปัญหา ซึ่งคาดว่า
จะมีการเลิกจ้างแรงงานในระบบประมาณ 4 หมื่นคนในปีนี้ หากรัฐบาลเร่งให้เกิดการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ก็จะมีส่วนช่วยภาคธุรกิจได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้รัฐบาลกระตุ้นให้เกิดการซื้อขายรถยนต์เช่นเดียวกันกับภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยผู้ซื้อสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อรถยนต์มาหักลดหย่อนภาษีได้ เพราะคาดว่าอุตสาหกรรมนี้จะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมาก
“ข้อเสนอเรื่องการนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อรถยนต์มาหักลดหย่อนภาษีได้ เราต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมหลายด้าน ซึ่งแม้จะช่วยอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แต่ทำให้เกิดการประหยัดพลังงานหรือไม่ เพราะอาจจะเกิดภาวะรถยนต์เต็มบ้านเต็มเมืองจึงอาจจะไม่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจขณะนี้” ดร.สมชัยกล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
