ข้าราชการเฮ! โบนัสออกแล้ว

นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เตรียมอนุมัติเงิน 7,000 ล้านบาท


เพื่อใช้เป็นรางวัลประจำปี 2548 หรือโบนัสให้แก่ข้าราชการ ขณะนี้ระเบียบการจ่ายเงินโบนัสได้ร่างเสร็จแล้ว และจะสามารถเบิกจ่ายได้ทันที โดยขึ้นอยู่กับแต่ละส่วนราชการจะไปพิจารณาตามดัชนีชี้วัดผลการทำงาน แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ จ่ายเงินโบนัสให้ ข้าราชการในอัตราเท่ากันและการพิจารณาจ่ายโบนัสตามผลงานของข้าราชการแต่ละคน ซึ่งข้าราชการ 1 คน อาจจะได้รับเงินทั้ง 2 ส่วน

ในส่วนของกระทรวงการคลัง กรมสรรพากร เป็นกรมที่ได้รับจัดสรรมากที่สุด เนื่องจากมีผลงานด้านจัดเก็บภาษีตามเป้าหมาย ขณะที่กรมธนารักษ์มาเป็นอันดับสองเพราะเพิ่มมูลค่าในการจัดสรรประโยชน์จากที่ราชพัสดุได้ดี โดยในเบื้องต้นคาดว่า ข้าราชการระดับผู้อำนวยการกองจะได้รับเงินโบนัสคนละ 10,000 บาท ดังนั้น หน่วยงานใดที่มีความพร้อมก็ตั้งเงินงวดและขอเบิกเงินดังกล่าวกับกรมบัญชีกลางได้ทันที


ส่วนผลการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออคชั่นตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2548

จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.2549 ประหยัดงบประมาณได้ 15,500 ล้านบาท หรือ 7% ของวงเงินงบประมาณ 217,000 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนราชการประหยัดได้ 9,340 ล้านบาท รัฐวิสาหกิจประหยัดได้ 5,200 ล้านบาท และหน่วยงานอื่นของรัฐ 950 ล้านบาท

ขณะที่นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะเป็นเจ้าภาพโดยส่งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจากกรมบัญชีกลาง สำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ประสานงานกับรัฐวิสาหกิจทั่วประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในการเบิกจ่ายงบลงทุนตรงตามเป้าหมายในปี 49 จะเบิกจ่ายได้ 83% ของงบลงทุน 322,972 ล้านบาท ซึ่งจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.เบิกจ่ายได้แล้ว 42.1% ขณะที่ปี 50 มีงบลงทุนประมาณ 406,500 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ครม.แก้ไขปัญหาอุปสรรคเรื่องการเบิกจ่ายทั้งเรื่องของวงเงินขั้นต่ำ

ในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออคชั่น การกำหนดให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจเป็นผู้มีอำนาจในการจัดทำอี-ออคชั่นไม่เกินวงเงิน 300 ล้านบาท แทนใช้อำนาจอธิบดีกรมบัญชีกลางและแนวทางปฏิบัติอื่นๆ

เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับรัฐวิสาหกิจ หากรัฐ วิสาหกิจใดยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ตามเป้าหมายอีก กระทรวงการคลังคงต้องรายงานผลให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาเพื่อหาทางดำเนินการต่อไป.




แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์