ยกย่องกัปตันเป็นฮีโร่

สายการบินยูเอส แอร์เวย์ ของอเมริกัน หวิดนำผู้โดยสารดับสยอง เครื่องยนต์ 2 ข้างดับสนิทหลังชนฝูงนกขณะทะยานขึ้นจากสนามบินในนิวยอร์ก

เคราะห์ดีได้กัปตันรุ่นเดอะฝีมือพระกาฬ ตัดสินใจร่อนฉุกเฉินลงในแม่น้ำฮัดสัน ผู้โดยสารและลูกเรือปลอดภัยทั้ง 155 ชีวิต พร้อมใจชูกัปตันสุดเจ๋งขึ้นแท่นวีรบุรุษ ขอบคุณไม่หยุดปาก แม้แต่ ปธน.บุชยังกล่าวชม สื่อร่วมวงตีแผ่ประวัติกัปตันคนเก่ง เป็นอดีตนักบินขับไล่กองทัพอากาศ เจนชั่วโมงบิน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุระทึก เครื่องบินโดยสารร่อนลงฉุกเฉินกลางแม่น้ำฮัดสัน ในมหานครนิวยอร์ก

เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 15 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 03.30 น.วันที่ 16 ม.ค. ตามเวลาประเทศไทย ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็นสุดขั้ว แต่ผู้โดยสารทั้งหมด 155 คน รวมลูกเรือและทารก 1 คน รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์ เพราะประสบการณ์ของนายเชสลีย์ ซัลเลนเบอร์เกอร์ ที่ 3 กัปตันเครื่องบิน วัย 57 ปี อดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ฝีมือเยี่ยม ประจำกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่มีชั่วโมงการบินสูงถึง 19,000 ชม. ตลอดระยะเวลา 40 ปี

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า กัปตันเชสลีย์บังคับเครื่องบินแอร์บัส รุ่นเอ 320 เที่ยวบิน 1549 ของสายการบินยูเอส แอร์เวย์ ที่เดินทางออกจากสนามบิน ลากัวร์เดีย ในมหานครนิวยอร์ก

มีจุดหมายปลายทางที่เมืองชาร์ลอตต์ รัฐนอร์ธ แคโรไลนา ซึ่งขณะเกิดเหตุ กัปตันเชสลีย์ตัดสินใจนำเครื่องบินร่อนฉุกเฉินด้วยความระมัด ระวังและอย่างนิ่มนวล ลงสู่ผิวแม่น้ำฮัดสันที่เย็นเฉียบจนเกือบเป็นน้ำแข็งด้วยอุณหภูมิติดลบ 6 องศาเซลเซียส ด้วยการหย่อนส่วนหางของตัวเครื่องลงน้ำก่อน และค่อยๆ ผ่อนความเร็วจนเครื่องหยุดสนิท จากนั้นจึงบอกให้ ผู้โดยสารใส่เสื้อชูชีพแล้วรีบออกไปอยู่บนปีกทั้งสองข้าง พร้อมตรวจภายในห้องโดยสารถึงสองครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตกค้าง ขณะที่ลำตัวเครื่องบินค่อยๆจมลงในน้ำ ทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตเลยสักคน มีเพียงแค่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย อย่างน้อย 78 คน และมีหนึ่งคนขาหักทั้งสองข้าง

หลังสร้างวีรกรรมอันน่ายกย่อง ผู้โดยสารที่รอดชีวิตต่างพร่ำชื่นชม ขอบคุณไม่หยุดปากในฝีมือและยกย่องให้กัปตันเชสลีย์เป็น “ฮีโร่แห่งฮัดสัน”

ส่วนสื่อมวลชน สหรัฐฯต่างยกให้เหตุการณ์นี้เป็น “ปาฏิหาริย์บนแม่น้ำฮัดสัน” และรีบขุดคุ้ยชีวประวัติของกัปตันเชสลีย์ออกเผยแพร่อย่างครึกโครม โดยสำนักข่าวเอเอฟพีรวมถึงเว็บไซต์ หลายแห่งระบุว่า กัปตันเชสลีย์เคยเป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ จากนั้นจึงมาเป็นครูฝึกสอนนักบินพาณิชย์ และดำรงตำแหน่งประธานด้านความปลอดภัย ของสมาคมนักบินสายการบินพาณิชย์ (เอแอลพีเอ) ซึ่งมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบอุบัติเหตุทางอากาศหลายต่อหลายครั้ง และเคยร่วมทำงานกับทีมนักวิทยาศาสตร์ ของสำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) อีกด้วย

นอกจากนี้ กัปตันเชสลีย์เป็นผู้ร่วมเขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดความผิดพลาดในการบิน และยังเป็นคนคิดค้นหลักสูตรบริหารจัดการนักบินของสายการบินยูเอส แอร์เวย์ ที่มีนักบินจบหลัก สูตรแล้วหลายร้อยคน

ด้านนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนคร นิวยอร์ก แถลงโดยอ้างรายงานของโฆษกของสมาคมการบินแห่งชาติ (เอฟเอเอ) ว่า เครื่องยนต์ของเครื่องบินลำดังกล่าวทั้ง 2 เครื่อง เกิดดับกลางอากาศกะทันหันหลังนำเครื่องขึ้นได้ไม่กี่นาที สาเหตุคาดว่าชนเข้ากับฝูงห่าน ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อย และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากการก่อการร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่หอควบคุมการบินและจราจรทางอากาศของสนามบินลากัวร์เดีย เปิดเผยโดยอ้างคำรายงานของนักบินสายการบินดังกล่าวหลังนำเครื่องขึ้นไม่ถึงนาทีว่า เครื่องบินชนนกถึงสองครั้ง ทำให้เครื่องยนต์ ทั้ง 2 เครื่องสูญเสียแรงขับเคลื่อน

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช กล่าวแถลงถึงผลงานอันยอดเยี่ยมและน่าตื่นตะลึงของกัปตัน

ฮีโร่ที่ใช้ความสามารถอย่างสูงสุดและแสดงความเป็นวีรบุรุษ รวมทั้งเสียสละ ไร้ซึ่งความเห็นแก่ตัวในสภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ นอกจากนี้ นายปีเตอร์ โกเอล์ซ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของคณะกรรมการด้านความปลอดภัยระบบขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ เสริมว่า ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่น่าประทับใจที่สุด การร่อนลงฉุกเฉินครั้งนี้ นับเป็นอุบัติเหตุครั้งที่สองของสายการบินพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เคยเกิดอุบัติเหตุไปเมื่อ ธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งครั้งนั้น เครื่องบินสายการบินคอนติเนนตัล แอร์ไลน์ ไถลออกนอกรันเวย์แล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ ที่เมืองเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด โดยผู้ โดยสารจำนวน 112 คน หนีออกมาจากเครื่องได้ อย่างปลอดภัยทุกคน