กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัทท่าอากาศยานไทย เร่งติดป้ายประกาศ แจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ให้ระวังนำสินค้าละเมิดเครื่องหมาย การค้าเข้าไปในสหภาพยุโรป เพราะมีความผิดทางกฎหมาย ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง อาทิ หากนำ เข้าไปฝรั่งเศสมีโทษสูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับสูงสุด 300,000 ยูโร หรือประมาณ 14,100,000 บาท
“การประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวมีวัตถุประสงค์เพื่อประสานความร่วมมือใน การแจ้งเตือนให้ชาวไทย และชาวต่างประเทศมิให้ซื้อสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา นำเข้า ถือเข้า หรือส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นมาตรการด้านการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกดำเนินคดีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ต่างประเทศได้รับรู้ว่าประเทศไทยให้ความสำคัญในการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา”
ปัจจุบันประเทศสมาชิกประชาคมยุโรปหลายประเทศแก้ไขปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
ด้วยการลงโทษแก่ผู้นำเข้า ถือเข้าไป หรือส่งออก ด้วยอัตราโทษที่สูง ซึ่งการตั้งป้ายประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ ถือเป็นมาตรการด้านการป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาประการหนึ่ง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และแรงกดดันทางการค้าจากประเทศคู่ค้าได้
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า
การนำสินค้าปลอมหรือสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าเข้าไปในยุโรป มีโทษที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ประเทศฝรั่งเศสมีโทษสูงสุดคือ จำคุก 3 ปี และโทษปรับสูงสุด 300,000 ยูโร ประเทศอิตาลีมีโทษปรับสูงสุด 10,000 ยูโร โดยการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร มาตรา 86 ที่กำหนดให้รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ ทรัพย์สินทางปัญญา และพลังงาน โดยให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ปัจจุบันคนไทยนิยมใช้ของละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก จึงเสี่ยงที่อาจถูกตรวจจับและดำเนินคดีได้ อาทิ กระเป๋าเลียนแบบ นาฬิกา แว่นตา รองเท้า น้ำหอม เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ภาพยนตร์ดีวีดี วีซีดี แผ่นซีดีเพลง เสื้อทีมฟุตบอล ซึ่งมีการลอกเลียนแบบและวางขายในประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะตามย่านแหล่งท่องเที่ยว
นอกจากนี้ไทยยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ถูกจับตาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์การค้า
โดยเฉพาะทางการสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับให้ไทย อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิลยูแอล) ในด้านการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง หลังจากสหรัฐส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบห้างพันธุ์ทิพย์ และหลายพื้นที่ยังพบสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวนมาก ขณะเดียวกันคณะกรรมาธิการยุโรปปรับกฎระเบียบนำเข้าสินค้าปลอดภาษี ให้ผู้เดินทางเข้าสหภาพยุโรปนำสินค้าปลอดภาษีเข้าอียูเพิ่มเติมจากระเบียบเดิมได้หลายรายการ.