นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า
ครม.เศรษฐกิจมีมติเพิ่มกรอบวงเงินที่จะนำมารักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรกรอีก 12,625 ล้านบาท โดยมอบให้นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ไปพิจารณาหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติมจากเดิมที่รัฐบาลชุดก่อนได้จัดทำกรอบวงเงินกู้สำหรับรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรไว้แล้ว 110,000 ล้านบาท โดยแม้ขณะนี้จะยังเหลือวงเงินใช้ได้อีก 50,000-60,000 ล้านบาท ที่ยังคงดำเนินการต่อไป แต่ที่ประชุมเห็นว่าต้องทำวงเงินเพิ่มเติมอีกเพื่อนำมาดูแลราคาสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลผลิตที่จะออกมาช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.-เม.ย.นี้ เพื่อไม่ให้ราคาสินค้าเกษตรและรายได้ของเกษตรกรลดลงตามแนวโน้มสินค้าเกษตรและภาวะเศรษฐกิจของโลก
สำหรับวงเงินกู้ที่เพิ่มเติม 12,625 ล้านบาท ยังไม่รวมวงเงินค่าบริหารที่เป็นเงินจ่ายขาด ซึ่งรัฐต้องจัดสรรให้อีกนั้น จะนำมาดูแลสินค้าเกษตร 3 ชนิด คือ
1. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอขอให้เพิ่มปริมาณการรับจำนำอีก 250,000 ตัน วงเงิน 2,125 ล้านบาท และมีวงเงินจ่ายขาดเพิ่มอีก 116 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 2,311 ล้านบาท
2. เพิ่มการรับจำนำปาล์ม น้ำมันอีก 100,000 ตัน วงเงิน 2,500 ล้านบาท และเงินจ่ายขาด 500 ล้านบาท รวมเป็น 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นการอนุมัติให้ครึ่งหนึ่งจากที่เสนอขอมา 200,000 ตัน และ
3. ยางพารา ขอเพิ่มอีก 200,000 ตัน ต้องใช้เงินกู้ 8,000 ล้านบาท และเงินจ่ายขาด 270 ล้านบาท รวม 8,270 ล้านบาท