ผู้สื่อข่าวรายงานวานนี้ (13 ม.ค.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ได้สั่งการให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปเฝ้าซากอาคารซานติก้าผับตลอด 24 ชม. หลังพบว่า ขณะนี้ไม่มีตำรวจเข้าไปดูแลอาคารดังกล่าว มีเพียงการกั้นแนวเชือกไม่ให้บุคคลเข้าออกเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้มีคนเข้าไปในอาคารทำลายหลักฐานที่ยังไม่มีการตรวจสอบได้ ทั้งนี้ รมว.ยุติธรรม กล่่าวเพิ่มว่า ส่วนตัวเชื่อว่า คณะทำงานของกระทรวงยุติธรรมจะสามารถสรุปผลได้ในอีก 3 สัปดาห์ และจะมีการขยายผลในอีกหลายประเด็น โดยเชื่อว่า จะมีรายละเอียดที่มากกว่าทางตำรวจ โดยผลการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมจะเป็นแบบเบ็ดเสร็จบูรณาการ ทั้งข้อเสนอ การป้องกัน และแนวทางการแก้ไข ซึ่งไม่ได้ทำงานแบบจับผิดเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ดี นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตว่า มีตำรวจ และอัยการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถ้าสามารถชี้แจงได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
ซึ่งการทำงานของคณะทำงานอาจจะต้อใช้เวลาบ้าง แต่รับประกันว่าจะได้ผลการสอบสวนอย่างคุ้มค่าต่อการรอคอย นอกจากนี้ รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการถูกดักฟังโทรศัพท์ว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังถูกดักฟังโทรศัพท์อยู่ แต่จะไม่ทำอะไร และที่ผ่านมาก็ไม่ได้คุยกับพ.ต.อ. ทวี ถึงเรื่องการดักฟังโทรศัพท์ แต่ได้พูดคุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น โดย พ.ต.อ.ทวี ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร และเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นที่นำไปสู่ความเข้าใจผิดกัน จึงไม่จำเป็นต้องมาชี้แจง แต่ขอให้ทำงานตามความรับผิดชอบอย่างดีที่สุด
“ผมยืนยันว่าจะให้โอกาสอธิบดีดีเอสไอทำงานพิสูจน์ตนเอง และจะมีการพิจารณาการทำงานของผู้บริหารทุกหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรม หากการทำงานมีความคืบหน้าก็ถือว่ามีผลงาน ไม่ต้องกลัวจะถูกโยกย้าย หากผมจะย้ายใครต้องตอบคำถามได้ว่าเกิดจากอะไร และจะไม่นำเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวด้วยว่า ได้เสนอตั้งคณะทำงานด้านต่างๆ ของกระทรวงยุติธรรมรวม 8 ด้าน ประกอบด้วย
1 คณะทำงานดูแลเว็บไซต์เกี่ยวกับคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 2 คณะทำงานด้านการดูแลกฎหมายและอำนวยความยุติธรรม 3 คณะทำงานด้านการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง 4 คณะทำงานเผยแพร่พระเกียรติภูมิของพระมหากษัตริย์ 5 คณะทำงานเผยแพร่ข่าวสารกฎหมายและข่าวสารทางราชการ 6 คณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ร้องเรียนของประชาชน 7 ด้านการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครยุติธรรม 8 คณะทำงานเฉพาะกิจ โดยแต่ละคณะทำงานจะมีชุดละ 5 - 8 คน ซึ่งตนจะเป็นผู้คัดเลือกทั้งหมด และคณะทำงานทุกชุดจะต้องรายงานผลความคืบหน้า การทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยคณะทำงานทุกคนจะไม่ได้รับเงินเดือนจะได้เพียงเบี้ยประชุมเท่านั้น