วันนี้ (12 ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีหลายฝ่ายคัดค้านว่ามีมาตรการหลายเรื่องของรัฐบาลที่ยังไม่น่าทำ
เพราะขณะนี้งบประมาณของรัฐบาลก็ไม่เพียงพอ เช่น โครงการเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า หลักของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการศึกษาโดยเฉพาะในประเทศที่ได้เริ่มต้นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ ชัดเจนที่สุด คือ มาตรการที่ได้ผล คือมาตรการที่สามารถเอาเงินไปใส่กระเป๋าประชาชนได้เร็วที่สุด แต่เราคงต้องมาพิจารณาว่าใครบ้างที่ควรจะได้รับตรงนี้
“กรณีของคนทำงานจะพิจารณาเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ส่วนผู้สูงอายุเราถือว่า 1. ในหลักสากลคนกลุ่มนี้คือคนที่ควรจะได้มีสิทธิได้รับการดูแล เพราะโดยธรรมชาติคือกลุ่มคนซึ่งอาจจะไม่อยู่ในวัยทำงานแล้ว 2. ในหลักของสังคมไทย คิดว่าเป็นการตอบแทนผู้สูงอายุ ซึ่งทำอะไรให้กับบ้านเมือง ให้กับประเทศชาติมาเกือบชั่วชีวิต ฉะนั้นขอยืนยัน นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ทุกพรรคการเมืองได้ใช้หาเสียงตลอดเวลา แต่ไม่เคยสามารถทำให้เกิดขึ้นเป็นจริงและครอบคลุมได้ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มต้น แต่ในระยะต่อไปจะไม่ใช้ตัวเบี้ยยังชีพเป็นกลไกหลัก จะพึ่งกลไกลักษณะการออมชุมชนที่เป็นกลไกสำหรับคนที่อยู่นอกประกันสังคมกับระบบราชการ ซึ่งคงจะเริ่มต้นได้ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้รายจ่ายที่รัฐบาลกำหนดทั้งหมดยังอยู่ในกรอบเรื่องการขาดดุลและการกู้ยืม ไม่กระทบต่อเกณฑ์เรื่องของวินัย
ซึ่งทั่วโลกก็เช่นเดียวกัน ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้รัฐบาลต้องยอมขาดดุลเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้น แล้วเมื่อเศรษฐกิจฟื้นรายได้ของรัฐบาลจะกลับมาเอง แต่ถ้าเราลังเลในการที่จะยอมขาดดุลในช่วงนี้แล้วเศรษฐกิจซบเซาหรือถดถอยไป ก็ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอะไรให้รัฐบาลเลย เพราะปีหน้าเงินรายได้ของรัฐบาลก็จะลดลงไปอีก
ต่อข้อถามถึงการที่รัฐบาลจัดเก็บภาษีไม่ตรงตามเป้าที่กำหนด รัฐบาลมีมาตรการอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้คำนวณเรื่องของการจัดเก็บภาษีไม่เข้าเป้าเพื่อมากำหนดยอดวงเงินของงบกลางปี ที่จะไม่เกิดปัญหากับกรอบทางด้านการเงินการคลัง เพราะฉะนั้นเวลาที่คำนวณเรื่องการขาดดุลทั้งปีจะดูจากการขาดดุลที่รัฐบาลก่อนทำประมาณการไว้ในช่วงจัดทำงบประมาณ บวกกับเงินที่จัดเก็บได้น้อยกว่าที่ประมาณการไว้ แล้วนำตรงนั้นมาคำนวณว่า เราสามารถที่จะจัดงบเพิ่มเติมได้เท่าไร
เมื่อถามถึงมาตรการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยหนาว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปกติแล้วทุกสัปดาห์คณะรัฐมนตรีจะมีการให้รายงานสภาวะอากาศ ทั้งเรื่อง ภัยหนาว ภัยแล้ง น้ำท่วม ซึ่งวันพรุ่งนี้จะมีรายงาน ให้ทำข้อมูลเสนอทุกสัปดาห์เพื่อให้ทันการณ์ในการแก้ไขปัญหา