จับหมอฝรั่งเถื่อน ทำคนไข้ตายเพียบ

"แอบอ้างรักษา ทำคนไข้ตายหนีกบดาน"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (10 ก.ค.) ที่ห้องประชุม สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ พล.ต.ท.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชำนาญ รวดเร็ว รอง ผบก.ภ. จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ หรือนายอับดุลห์ ฮัค เอชอี ซาโตรี่ อายุ 67 ปี ชาวออสเตรีย ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางเอกสารที่ใช้แอบอ้างเรื่องการรักษา ข้อความที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ภาพถ่ายขณะทำการรักษา และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์กล่าวว่า สำหรับเบื้องหลังการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจออสเตรเลียมีหนังสือประสานมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือในการสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของชาวออสเตรเลียหลายรายในรัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่ และรัฐเวสเทิร์น อันเนื่องมาจากการรักษาของนายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ผู้ต้องหา ซึ่งได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และมีภรรยาเป็นคนไทย ชื่อนางบุญตา ยิ้มน่วม อายุ 42 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน โดยผู้ต้องหายังได้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ด้วยการโฆษณาทางเว็บไซต์ไปทั่วโลก

ผบช.ภ. 5 กล่าวด้วยว่า ต่อมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ตำรวจภาค 5 สืบสวนจับกุม จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีระศักดิ์ ชูกิจคุณ รอง ผบช.ภ.5 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์คนร้ายข้ามชาติและศูนย์สืบสวนตำรวจภาค 5 นำกำลังประสานกับสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ออกสืบเบาะแสจนทราบว่า นายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ได้รักษานางเคธลีน เพลสตัน ชาวออสเตรเลีย จนเสียชีวิตที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 47 ผลการผ่าพิสูจน์ศพแพทย์ระบุว่า พบก้อนเนื้อมะเร็งและพบระดับสารโปแตสเซียมที่สูงผิดปกติ เนื่องจากมีการฉีดสารดังกล่าวเข้าไปในร่างกายของผู้ตายมากเกินไป


"รักษาคนไข้ตายมาหลายราย"


นอกจากนั้นยังพบข้อมูลด้วยว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ได้นำนางเมลิซา จูดิท เทเลอร์ อายุ 33 ปี ชาวนิวซีแลนด์ ผู้ป่วยโรคมะเร็ง ส่งรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ในสภาพสลบหมดสติไม่รู้สึกตัว แพทย์ช่วยเหลือจนอาการดีขึ้น จากการสอบถามข้อมูล นางเมลิซาให้การรายละเอียดว่า ติดต่อรักษาโรคมะเร็งปอดกับนายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต มีการตกลงค่ารักษาเป็นเงิน 900,000 บาท เมื่อเดินทางมารักษา นายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ได้ฉีดยาที่เรียกว่า โอโซน เข้าบริเวณหน้าอก 3 เข็ม เพื่อสลายก้อนมะเร็ง หลังฉีดได้ไม่นานเกิดอาการช็อกหมดสติในที่สุด

พล.ต.ท.ภาณุพงศ์กล่าวอีกว่า หลังตำรวจมีพยานหลักฐานแน่ชัดจึงได้ทำเรื่องเสนอศาลจังหวัดเชียงใหม่ ขออนุมัติหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านภรรยาคนไทย เลขที่ 65/12 หมู่ 3 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เมื่อเช้าวันเดียวกัน จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้ยังมีหมายจับของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ข้อหาฉ้อโกง หลอกเอาเงินมัดจำการรักผู้ป่วยโรคมะเร็งจากนายซีเกน ชาวอเมริกัน เป็นเงิน 612,000 บาท ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.เมืองเชียงใหม่

ขณะที่ตำรวจสากลกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียแจ้งรายละเอียดประวัตินายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ ว่า จบการศึกษาทางการแพทย์จากมหาวิทยาลัยกราซ ประเทศออสเตรเลีย เคยรักษาคนไข้ชาวออสเตรเลียเสียชีวิตมาหลายราย ตามข้อมูลจากแพทยสภาของออสเตรียไม่ปรากฏชื่อนายเฮลไฟรด์ ซาโตรี่ เชื่อว่าคงปลอมแปลงเอกสารการเป็นแพทย์ เพราะเคยถูกจับกุมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาถึง 2 ครั้ง ในข้อหาประกอบวิชาชีพการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต หลังได้รับการปล่อยตัวได้หนีมากบดานในประเทศ ไทย และรับรักษาโรคมะเร็งอีกจนตำรวจออสเตรเลีย ประสานข้อมูลจนมีการจับกุมดังกล่าว ในชั้นนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินคดีก่อนและจะได้ประสานกับสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศ ไทยอายัดตัวต่อไป


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์