พม.ช่วยเหลือหญิงพิการ ถูกอดีตสามีทำร้ายจนขาขาด นิ้วมือขาด

กรุงเทพฯ 12 ม.ค.- หญิงพิการวัย 52 ปี เข้าร้องเรียนต่อ รมว.พม. เนื่องจากถูกอดีตสามีทำร้ายฟันด้วยมีดนิ้วมือขาด ขาขาด ไม่สามารถทำงานได้ อีกทั้งต้องเลี้ยงหลานอีก 2 คน พม.ช่วยเหลือเบื้องต้นเดือนละ 2,000 บาท จนกว่ามีอาชีพช่วยตัวเองได้ ส่วนหลานให้เข้าโครงการครอบครัวอุปถัมภ์ ย้ำ พม.ไม่ทอดทิ้ง เด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ เตรียมเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 13 เม.ย.นี้

นางพรพรรณ ภุมรินทร์ อายุ 52 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกอดีตสามี อาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ใน จ.กาญจนบุรี

ทำร้ายร่างกายเมื่อปี 2548 ใช้มีดฟันจนได้รับบาดเจ็บ ขาซ้ายขาด นิ้วชี้และนิ้วโป้งมือขวาขาด ซึ่งอดีตสามีอยู่ระหว่างการหลบหนีคดี ส่วนตัวเองกำลังประสบความยากลำบากเพราะไม่มีอาชีพ ส่วนหลาน 2 คนเป็นลูกของลูกสาวครอบครัวแตกแยก จึงนำหลานมาให้ตนเลี้ยง เป็นหญิงทั้ง 2 คน อายุ 8-9 ปี ศึกษาอยู่ที่โรงเรียนบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือต่อกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพราะบ้านที่พักอยู่เป็นบ้านของบุตรสาวจำนองไว้กับธนาคารและกำลังจะถูกยึด

นายวิฑูรย์ นามบุตร รัฐมนตรีว่าการ พม. ได้ออกมารับเรื่องร้องเรียนจากนางพรพรรณด้วยตนเอง

พร้อมได้ปรึกษากับผู้บริหาร พม.ในการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบ เบื้องต้นตกลงให้ช่วยเหลือเงินเดือนละ 2,000 บาท ไปจนกว่าจะมีอาชีพช่วยเหลือตัวเองได้ ระหว่างนี้ให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หาทำเลสำหรับทำร้านอาหารเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน เนื่องจากนางพรพรรณ มีความสามารถในการทำอาหาร ส่วนหลาน 2 คน ให้เข้าโครงการครอบครัวอุปถัมภ์ ให้เงินช่วยเหลือเดือนละ 1,000 บาท จนกว่ารัฐบาลจะเริ่มโครงการเรียนฟรี 15 ปี

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาสังคมไทยมีปัญหาการถูกทารุณกรรมในครอบครัว แต่ประชาชนไม่รู้ว่าจะแจ้งขอความช่วยเหลืออย่างไร

พม.ประชาสัมพันธ์ให้ผู้เดือดร้อนแจ้งไปยังพัฒนาสังคมฯ จังหวัด และจะมีการแจ้งมายังส่วนกลางตามลำดับ แต่ พม.มีระเบียบในการทำงานและมีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ การช่วยเหลือที่ให้คงไม่ใช่การช่วยเหลือตลอดชีวิต แต่จะช่วยเหลือทางด้านการสอนวิชาชีพให้ผู้เดือดร้อนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และย้ำว่า พม.ไม่ทอดทิ้ง เด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ

รัฐมนตรีว่าการ พม. กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนางพรพรรณนี้ ได้ขึ้นทะเบียนคนพิการไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ

จึงใช้ระเบียบช่วยเหลือผู้ยากไร้ไปก่อน เนื่องจากผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนขณะนี้มี  900,000 คน แต่ พม.ช่วยเหลือได้เพียง 200,000 คนเท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้พิการในกลุ่มผู้สูงอายุ ในวันที่ 13 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันผู้สูงอายุ  พม.จะอนุมัติเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุอีก ดังนั้น ผู้พิการกลุ่มนี้อาจจะถูกพิจารณาให้อยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุก็ได้.-สำนักข่าวไทย