ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ แห่งชาติ (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ว่า
องค์การยูเนสโก และสหพันธ์ ดาราศาสตร์สากล ได้กำหนดให้ปี 2552 เป็นปี “ดาราศาสตร์สากล” เนื่องจากครบรอบ 400 ปีของการศึกษาวิจัยด้านดาราศาสตร์ ทั้งนี้ ในส่วนของประเทศไทยจะมีกิจกรรมต่างๆตลอดทั้งปี โดยเฉพาะการประกาศ
“สถานที่สำคัญทางดาราศาสตร์ของประเทศ” อาทิ แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต ปราสาทเขาพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์ บริเวณลองจิจูดเส้นแวงที่ 105 จ.อุบลราชธานี และหอดูดาวสิรินธร จ.เชียงใหม่ เป็นต้น โดยสถาบันฯ เตรียมประกาศ 3 จุดสำคัญก่อนเพื่อนำร่อง คือ 1. แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์ตก 2. ปราสาทเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นจุดที่ดวงอาทิตย์ผ่าน 15 ช่องประตูทุกวันที่ 3 เม.ย.ของทุกปี ถือเป็นจุดที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์ และ 3. บริเวณลองจิจูดเส้นแวงที่ 105 ซึ่งเป็นจุดแรกและจุดเดียวที่เกิดขึ้นในแถบเอเชีย โดยเป็นจุดที่กำหนดมาตรฐานเวลาของประเทศไทย
นายบุญรักษากล่าวต่อว่า
นอกจากนี้ ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์สารสนเทศและศูนย์ฝึกอบรมดาราศาสตร์” ที่กิโลเมตร 31 บริเวณอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์ดาราศาสตร์แห่งแรกในเอเชีย จากนั้นจะทรงเยี่ยมชมหอดูดาวแห่งชาติ บนยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2552 พร้อมทั้งจะมีการติดตั้งกล้องดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียเช่นกัน ซึ่งจะติดตั้งและพร้อมใช้งานในเดือน เม.ย.2553 อย่างไรก็ตาม ในปีดาราศาสตร์สากล ยังมีปรากฏการณ์อุปราคาที่น่าสนใจ โดยช่วงตรุษจีนปีนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ม.ค. จะเกิดปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาวงแหวน” โดยดวงจันทร์เข้าบังดวงอาทิตย์เพียงบางส่วน แต่ที่พิเศษคือ ขณะเดียวกันก็เกิดปรากฏการณ์ “จันทร์ดับ” ในคราวเดียวกัน เนื่องจากเป็นช่วงขึ้น 1 คํ่า ที่ไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ได้
“ปรากฏการณ์ดังกล่าว ประเทศไทยจะมองเห็นได้ บางส่วนเพียงร้อยละ 45 มองเห็นได้ตั้งแต่เวลา 16.15 น. ขึ้นไป จนกระทั่งดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า สำหรับปรากฏการณ์ จันทร์ดับร่วมกับสุริยุปราคาครั้งนี้ ไม่อยากให้คนเข้าใจกันว่าเป็นเรื่องของลางไม่ดี เพราะตามหลักดาราศาสตร์ เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติเท่านั้น” นายบุญรักษากล่าว
ด้านนายภิญโญ พงษ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์ แห่งประเทศไทย กล่าวว่า
สมาคมฯ จะทำพิธีสวดนพเคราะห์ สวดจันทรุปราคาและสวดสุริยุปราคาในวันที่ 26 ม.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันที่เกิดอุปราคาหรือจันทร์ดับ แม้ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดเป็นระยะอยู่แล้ว แต่ปีนี้แตกต่างจากทุกปี เนื่องจากการเกิดอุปราคาดังกล่าวกระทบต่อดาวพฤหัสบดี ซึ่งเป็นดาวที่ให้คุณโดยตรง ที่สำคัญ เกิดในฤกษ์ที่เรียกว่า “ภูมิปาโลฤกษ์” ซึ่งเป็นฤกษ์แห่งการรักษาแผ่นดิน
ดังนั้น เหตุการณ์บ้านเมืองจะไม่ปกติ และจะมีการเปลี่ยน แปลงตลอดเวลา เกิดความไม่สงบจนถึงเดือน พ.ย.2552 อีกทั้งการเกิดอุปราคาที่กระทบต่อดาวพฤหัสฯยังส่งผลให้อาจเกิดความสูญเสีย สมาคมฯจึงจัดพิธีสวดนพเคราะห์ขึ้น เพื่อเป็นการเสริมดวงชะตาให้แก่ดาวพฤหัสบดีให้เข้มแข็งขึ้น โดยเลือกสถานที่ที่วัดเทวราชกุญชร ซึ่งมีพื้นที่ถูกโฉลก เพราะตั้งอยู่บริเวณเทเวศร์ ที่หมายถึง เทวดา ขณะที่ตัวเจ้าอาวาส คือ พระเทพคุณาภรณ์ ก็เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ จึงหมายถึงทั้งเทพและเทวดามาชุมนุมกัน นอกจากนี้ พระที่มาสวดนพเคราะห์ก็เป็นพระสงฆ์เปรียญธรรม 9 ประโยค 9 รูป ทั้งนี้การสวดดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น.
ตรุษจีน 26 ม.ค. วัน จันทร์ดับ
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!