ผกก.สน.พลับพลาไชย ระบุ นัดเจ้าของอาคารเสือป่าพลาซ่า เข้าให้ปากคำตำรวจเวลา 14.00 น.วันนี้ ด้านเหยื่อไฟไหม้ เผย วินาทีหนีตาย ต้องกระโดดข้ามตึก
(5ม.ค.) พ.ต.อ.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผกก.สน.พลับพลาไชย กล่าวกรณีไฟไหม้อาคารเสือป่าพลาซ่า ว่า
ขณะนี้ได้พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย คือนายสงวน แสนแก้ว เป็นลูกค้าร้านเซาน่า เสียชีวิตที่ชั้น 7 และไฟได้สงบลงตอนตี 5 โดยเหตุเกิดเวลา 2 ทุ่ม ไฟอยู่ที่ชั้น 1 และที่ชั้น 2 มีไฟเพียงเล็กน้อย ส่วนชั้นอื่นมีเพียงควันเท่านั้น แต่ที่ใช้เวลานาน เพราะข้างในเป็นอุปกรณ์มือถือ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี มีควันไฟคุตลอด แต่เปลวเพลิง นั้นมองไม่เห็น ส่วนคนเจ็บมี 38 ราย กลับบ้านแล้วส่วนใหญ่ ยังมีเพียง 3 ราย ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลกลาง ตอนนี้ยังคงปิดถนนเสือป่าเอาไว้ตอนเกิดเหตุมีคนอยู่ในอาคารประมาณ 100 คนเศษเท่านั้น และเท่าที่ทราบอาคารดังกล่าวมีบันไดหนีไฟอยู่หลายจุด
พ.ต.อ.เสนิต กล่าวว่า
มีคนพบไฟลุกลามจากร้านที่ปิดแล้วในชั้น 1 ซึ่งเป็นร้านขายอุปกรณ์มือถือ ทางพลาซ่าจะปิดร้านในช่วงเวลา 18.00 น. ด้านบนมีเกสต์เฮ้าส์ มี 18 ห้อง แต่มีคนพักเพียงไม่กี่ห้องและมีร้านนวดแผนโบราณ วันนี้พนักงานสอบสวนได้นัดเจ้าของอาคาร เสือป่าพล่าซ่า เวลา 14.00 น. เพื่อเข้าให้ปากคำตำรวจ
อนึ่งอาคารเสือป่าพลาซ่า สูง 7 ชั้น ชั้นที่ 1-3 เปิดเป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมและหน้ากากโทรศัพท์มือถือ ชั้น 4 เป็นร้านนวดแผนโบราณ ชั้น 5-6 เปิดเป็นเกสต์เฮ้าส์ ส่วนชั้น 7 เปิดเป็นเซาวน์ ขณะเกิดเหตุมีผู้พักอาศัยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างพาวิ่งหนีตายอย่างชุลมุน นายจรูญ ธุระตา อายุ 44 ปี พนักงานนวดเซาน่า เล่าวินาทีหนีตายว่า ตนเป็นพนักงานนวดของจีเอสเอ็ม เซาวน์น่า ตั้งอยู่ชั้น 7 ของอาคารเสือป่าพลาซ่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 19.30 น. ตนทำงานอยู่ที่ชั้นดังกล่าว ระหว่างนั้นได้มีเพื่อนโทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือของตนพร้อมพูดว่า "ให้หนีขึ้นไปชั้นดาดฟ้า แล้วไม่ต้องลงมา" ตอนแรกตนยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงวิ่งขึ้นไปตามคำสั่งของเพื่อนที่โทรศัพท์มาบอก เมื่อวิ่งขึ้นไปชั้นดาดฟ้า ชะโงกลงมาดูพบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้อาคาร ทำให้รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
"ตอนเกิดเหตุผมพยายามรวบรวมสติ ชวนเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน 5-6 คนที่วิ่งมาด้วย กระโดดหนีตายไปยังตึกปลูกติดกันกับอาคารที่เกิดเหตุ และยังได้บอกคนอื่นๆให้กระโดดตามมาด้วยกัน เพราะตอนนั้นควันเริ่มตีขึ้นมาแล้ว เมื่อกระโดดข้ามไปได้แล้วก็โบกมือ ตะโกนให้คนมาช่วย ผมตกใจมาก แต่ก็พยายามตั้งสติ ในใจคิดว่าไม่น่าจะรอดแล้ว กลัวจะเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดกับซานติก้าผับ " นายจรูญกล่าว
นายจรูญ กล่าวอีกว่า
จากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง จึงมีรถกระเช้ามาช่วยให้ลงมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนนำตัวส่งรพ.กลาง ซึ่งตนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนัก มีแต่เพียงสำลักควันธรรมดา เมื่อแพทย์บอกว่าปลอดภัย จึงกลับมาที่เกิดเหตุอีกครั้งเพราะห่วงทรัพย์สินที่อยู่ในล็อคเกอร์ จึงต้องย้อนกลับมาดู
"ดีใจน่ะที่รอดชีวิตมาได้ ตอนเกิดเหตุคิดว่าไม่รอดแล้ว ตอนนี้ก็นัดกับเพื่อนที่รอดชีวิตมาด้วยกันว่า เช้าวันที่ 5 ม.ค.จะพากันไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ ที่รอดชีวิตมาได้" นายจรูญกล่าว