เมื่อเกิดเหตุสยอง ที่ไม่มีคาดคิดว่า "ซานติก้าผับ" เหตุมีคนประมาท แต่ส่งผลอย่างมากถึงกับผลาญชีวิตผู้คนถึง 59 ศพรับปีฉลู ให้เดือดเป็นไฟ แค่เลยเที่ยงคืน เข้าสู่วันที่ 1 มกราคม 2552
นายดวิษ ธีราวิทยางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท White & Brothers (2003) จำกัด ผู้ประกอบการสถานบันเทิง SANTIKA Pub & Restaurant เอกมัย เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2550 ไว้ว่า...
"ซานติก้าผับ" ทุ่มงบกว่า 40 ล้านเปลี่ยนโฉมใหม่ ก้าวเป็นผู้นำธุรกิจบันเทิงปีที่ 4 เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2550 บริษัท White & Brothers (2003) จำกัด ผู้ประกอบการสถานบันเทิง SANTIKA Pub & Restaurant เอกมัยแถลงข่าวเปิดตัวภาพลักษณ์ใหม่และแนวทางการตลาดในปี 2550 ของ SANTIKA หวังครองแชมป์สถานบันเทิงอันดับหนึ่งย่านเอกมัย-ทองหล่ออีกสมัย เตรียมทุ่มงบกิจกรรมกว่า 20 ล้าน ดึงตัวศิลปินชื่อดังกระชากความมันส์ให้สาวกซานติก้าอีกเพียบ คาดยอดจำหน่ายปี 50 เพิ่มไม่ต่ำกว่า 25%
นายดวิษ ธีราวิทยางกูร เปิดเผยว่า
SANTIKA ก่อตั้งขึ้นในปี 2547 ในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว สภาพสังคมเงียบเหงา โดยการรวมตัวของกลุ่มคนที่มีใจรักในความบันเทิงและเสียงเพลง ซึ่งใช้ชื่อว่า SANTIKA มาจากภาษาสเปน ที่แปลว่า ธรรมชาติที่สวยงาม (Beautiful in Nature) ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างสีสัน ความสุข และความบันเทิงที่แปลกใหม่ให้กับคนกรุงเทพ
กลายเป็นสุสาน มูลค่า 40 ล้านบาทจริง เมื่อซานติก้าผับแหล่งบันเทิงรับไฮโซหรู บนถนนเอกมัย ยกโลงมาตกแต่งภายใน
ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
SANTIKA ได้รับผลตอบรับที่ดี ทุกปีมียอดขายเพิ่มขึ้นปีละ 25% และมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการโดยเฉลี่ยถึง 700 คนต่อวัน ถึงแม้ว่ายอดขายและการเติบโตของร้านจะอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ แต่การที่จะคงความเป็นผู้นำด้านธุรกิจบันเทิงไว้ได้นั้น ต้องกล้าที่จะเปลี่ยน โดยธรรมชาติของมนุษย์แล้ว การสัมผัสหรือเคยชินกับสิ่งใดนานๆ มักจะเกิดความเบื่อหน่าย ดังนั้นในปีที่ 4 นี้ SANTIKA จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และรูปโฉมภายนอกและภายในใหม่ทั้งหมด ด้วยงบประมาณกว่า 40 ล้านบาท โดยมุ่งหวังให้ SANTIKA ยังเป็นความแปลกใหม่ที่น่าค้นหาอยู่ต่อไป
“หลายคนอาจมองว่าการทุ่บงบประมาณมหาศาลในช่วงที่เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า แต่ SANTIKA เรามองว่า ในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ ต้นทุนในการก่อสร้างต่ำลง ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรง และค่าวัสดุก่อสร้าง ทำให้เราได้ของดี นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า นอกจากนี้ผู้บริโภคเกิดความเครียด ความกดดัน ทำให้เราเล็งเห็นโอกาสที่จะสร้างความบันเทิงในรูปแบบใหม่ๆได้อีกด้วย
กับภาพลักษณ์ใหม่เช่นนี้ SANTIKA ได้วางกลุ่มเป้าหมายได้ที่ระดับ B+ ถึง A ช่วงอายุระหว่าง 20 – 35 ปี แต่เราไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวเงินเป็นตัวชี้วัดระดับของลูกค้า แต่เราเน้นที่รสนิยม (Taste) และรูปแแบในการดำเนินชีวิต (lifestyle) ที่เลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เป็นสำคัญ” คุณดวิษกล่าว
สำหรับคู่แข่งโดยตรงของ SANTIKA คงไม่มี ด้วยเหตุที่ SANTIKA มีข้อได้เปรียบหลายปัจจัย อาทิ ที่จอดรถและพื้นที่ใช้สอยภายในร้านขนาดใหญ่, Bar และ Restaurant ที่มีคุณภาพ รวมถึงความบันเทิงและการแสดงดนตรีสด (Live Stage) ที่นับว่าดีที่สุดในย่านเอกมัย-ทองหล่อ โดยที่ความใหญ่ของเราก็ไม่ทิ้งความอบอุ่นและคุณภาพของบริการ
ในปี 2550 ซานติก้า ตั้งเป้าหมายทางการตลาด
โดยเน้นที่ การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า (Customer Satisfaction) เป็นสำคัญ ด้วยการทำ CRM (Customer Relationship Management) วางนโยบายทางการตลาดไว้ที่ 4 ประการ คือ
1.Best Environment – สภาพแวดล้อมที่ดีเลิศ ช่วยให้คุณผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานได้ด้วยการตกแต่งภายในและภายนแกที่สวยงาม
2.Best Service – การบริการที่เป็นเลิศ ทั้งในเรื่องของพนักงานที่ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี และคุณภาพของบริการที่ดีเยี่ยม
3.Best Entertainment – ความบันเทิงหลากหลายรูปแบบที่ครบวงจร และเตรียมพร้อมรอให้คุณได้มาสัมผัส โดยเฉพาะในรูปแบบของ Live Entertainment
4.Best Social – สังคมที่ดีเลิศ ด้วยคุณภาพของลูกค้าที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี
คุณดวิษ กล่าวว่า
ซานติก้ายังคงวางราคาสินค้าและบริการต่างๆสูงเช่นเดิม เนื่องจากซานติก้าวาง Positioning ของตนเองไว้สูงกว่า Pub ในย่านเอกมัย – ทองหล่อ แต่ราคาที่สูงนั้นก็หมายถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่สูงตามไปด้วย เพื่อความคุ้มค่าสูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับกลับคืนไป”
คอนเซ็ปต์และรูปแบบของ NEW SANTIKA
ผู้ออกแบบรูปโฉมใหม่ของซานติก้า เปิดเผยถึงแนวคิดและรูปแบบของ NEW SANTIKA ว่า หากพิจารณาจกหลายๆร้านในตอนนี้ จะดูเป็นแนว Modern ทั้งหมด แต่คอนเซ็ปต์ของ SANTIKA คือการผสมผสานความเก่าและความใหม่เข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ความรู้สึกของอารมณ์ในทุกมุมมอง โดยดีไซน์ออกมาในรูปแบบของโบสถ์เก่า ที่มีเสน่ห์ของความเก่า แฝงด้วยความน่าเกรงขาม และผสมผสานความใหม่ด้วย เพื่อให้เกิด contrast