ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฏการณ์ “ดาวเคียงเดือน” ที่คนไทยส่วนใหญ่ต่างหวังว่าจะมีโอกาสได้เห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง
หลังมีข่าวว่าจะเกิดปรากฏการณ์ “ดาวเคียงเดือน” ขึ้นบนท้องฟ้าอีกในเวลา 18.40 น. วันที่ 29 ธ.ค. เมื่อดาวพุธและพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ใกล้ดวงจันทร์ จนอาจจะได้เห็นพระจันทร์ยิ้มอีกครั้ง โดยมองเห็นได้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเมื่อถึงเวลาดังกล่าวประชาชนที่ทราบข่าวต่างก็ตั้งตารอดู “พระจันทร์ยิ้ม” อีก แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวังไปตามๆกัน เมื่อท้องฟ้าไม่เป็นใจ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯมองเห็นพระจันทร์บนท้องฟ้าเป็นเพียงเสี้ยวบางๆเท่านั้น ขณะที่ดาวพุธและพฤหัสบดีถูกเมฆบดบังจนมองแทบไม่เห็นแสง ส่วนดาวศุกร์ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางด้านบนส่องแสงแวววาวเห็นได้ชัดเจนกว่า
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนางประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย กล่าวว่า ประชาชนสามารถมองเห็นปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน หรือพระจันทร์ยิ้ม ในวันที่ 29 ธ.ค. ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เวลา 18.40-19.00 น.
แต่อาจจะยิ้มไม่สวยเท่าเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยจะปรากฏบนท้องฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เงยหน้าไม่เกิน 15 องศา เป็นพระจันทร์ยิ้มแบบตะแคง ในส่วนของกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะมองเห็นยากมาก เพราะอยู่ใกล้ขอบฟ้ามาก อย่างไรก็ตาม จะโชคดีที่ได้เห็นดาวพุธ ซึ่งมองเห็นยากมากอยู่ด้านล่าง เนื่องจากดาวพุธส่องแสงไม่สว่างและอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด ส่วนประชาชนที่อยู่บนยอดดอยจะเห็นได้ชัดเจนกว่า
นอกจากนี้นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทยยังได้เชิญชวนประชาชนร่วมชมปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนอีกครั้ง ในวันส่งท้ายปีเก่า (31 ธ.ค.-ขึ้น 5 ค่ำ) ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ เวลา 18.40-20.00 น.
จะเห็นดาวศุกร์ ชัดเจนมากอยู่ด้านล่างใกล้ดวงจันทร์ เป็นดาวเคียงเดือนแบบตะแคงโค้งเอียงขอบฟ้า วาดรูป ถ่ายภาพได้ ขณะเดียวกัน ในมุมมองของนักโหราพยากรณ์อย่างนายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวถึงปรากฏการณ์ “ดาวเคียงเดือน” หรือ “พระจันทร์ยิ้ม” เมื่อค่ำวันที่ 29 ธ.ค. ว่า ปรากฏการณ์พระจันทร์ยิ้มเกิดขึ้นในราศีมังกร ซึ่งในราศีนี้มีดาวจันทร์ พุธ พฤหัส และศุกร์ อยู่เคียงกัน ทั้ง 4 ล้วนเป็นดาวศุภเคราะห์ หรือดาวฝ่ายอ่อนโยนที่ให้คุณ ถือว่าเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะเป็นการเกิดในภพที่ 10 ของดวงเมืองอันหมายถึงรัฐบาล จะส่งผลเกี่ยวกับความคืบหน้า การบริหารราชการแผ่นดินให้ดำเนินไปด้วยดี แต่ก็ยังมีข้อขัดแย้งอยู่ในสิ่งที่มองว่าดีหรือราบรื่น จะมีคลื่นใต้น้ำให้วุ่นวาย เพราะในราศีมังกรมีพระราหู ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ร้ายโคจรอยู่ตรงกลางราศี จะทำให้เกิดความวุ่นวายเกิดขัดแย้งในการบริหารงานในคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา การบริหารที่คาดว่าจะดีจะมีเหตุขัดข้อง
นายภิญโญกล่าวอีกว่า ปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือนหรือพระจันทร์ยิ้มในครั้งนี้เกิดในราศีมังกร จะต่างจากครั้งที่ผ่านมาซึ่งเกิดในราศีธนู
ซึ่งครั้งนั้นเกิดแล้วทำให้เหตุการณ์ต่างๆของบ้านเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดี เพราะดาวที่มาเคียงกันล้วนเป็นดาวให้คุณ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็เป็นการเปลี่ยนไปอย่างนิ่มนวลไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมือง มีการ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมาบริหารบ้านเมือง แต่การเกิดพระจันทร์ยิ้มในครั้งนี้ นอกจากดาวให้คุณแล้ว จะมีดาวให้โทษมารวมอยู่ด้วย ซึ่งนอกจากราหูจะอยู่ตรงกลางแล้ว ด้านหน้าจะมีมฤตยูและด้านหลังมีอาทิตย์ และอังคารบีบหน้าบีบหลังเหมือนการถูกบีบคั้น จนเกิดการกดดันค่อนข้างมาก เมื่อดูจากภพที่เกิดและลีลาของดาว จึงน่าจะส่งผลรุนแรงกับรัฐบาลและรัฐสภา