เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ธ.ค. ขณะที่ ร.ต.ท.สุทัศน์ พรมขัดดุก พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.คลองตัน กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้มีนายพิทยา มูลดี อายุ 30 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 13 ต.เริงแฝก อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม พนักงานเก็บเงินตู้โทรศัพท์บริษัท ประกายสยาม จำกัด เดินทางเข้าพบพร้อมนำกระเป๋าคาดเอวสีดำแดง ยี่ห้อ The North Face ส่งมอบให้ช่วยตามหาเจ้าของ เนื่องจากภายในมีเงินสดอยู่จำนวนมาก พนักงานสอบสวนได้เปิดกระเป๋าตรวจสอบต่อหน้านายพิทยา และพยานอีกหลายคนบนโรงพัก พบธนบัตรฉบับละ 1000 บาท มัดรวม 10 มัด เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,136,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีพาสปอร์ตระบุชื่อนายดีเร็ค เมนเทล สัญชาติแคนาดา อายุ 31 ปี และใบเสร็จซื้อสินค้า หมายเลขโทรศัพท์ของนายดีเร็คด้วย ร.ต.ท.สุทัศน์จึงโทรศัพท์ไปสอบถามว่า มีทรัพย์สินหายบ้างหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลสอดคล้องตรงกันเลยประสานให้เจ้าตัวมารับคืน
เก็บเงินล้าน ส่งคืนให้ฝรั่ง
นายพิทยา หนุ่มพลเมืองดีเผยว่า ทำงานขับรถตู้ ขนเงินของบริษัทตระเวนเก็บเงินจากกล่องเงินภายในตู้โทรศัพท์สาธารณะหยอดเหรียญไปตามเส้นทางถนนอ่อนนุช
เมื่อถึงบริเวณหน้าตลาดเอี่ยมสมบัติ แขวงและเขตพระโขนง กทม. สังเกตเห็นรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กข 6969 ตาก กระโปรงท้ายไม่ได้ปิด สักพักก็พบว่า มีกระเป๋าคาดเอวสีดำแดง กระเด็นตกลงมาบนพื้นถนน ตนจอดรถลงไปเก็บและพยายามขับไล่ตาม แต่ไม่ทัน เมื่อเปิดแง้มดูเห็นเงินจำนวนมากจึงเข้าแจ้งตำรวจเพื่อติดต่อเจ้าของเงินมารับคืนต่อมา นายดีเร็ค เมนเทล เจ้าของกระเป๋าพร้อมนางวรรณรดา วรรณสิทธิ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 234/90 ซอยลาดพร้าว 12 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. แอร์โฮสเตสการบินไทย ภรรยาสาว เพื่อติดต่อขอรับทรัพย์สินคืนด้วยสีหน้าดีใจแต่ปฏิเสธจะให้สื่อมวลชน บันทึกภาพ
ทั้งนี้ นางวรรณรดายืนยันว่า ทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ครบ โดยเงินจำนวนดังกล่าว สามีเตรียมจะนำไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮาร์เลย์
แต่จำเป็นต้องเดินทางไปสวัสดีปีใหม่ญาติ ที่ จ.นครสวรรค์ ก่อนจึงเอากระเป๋าเงินใส่กระโปรงท้ายรถเพราะเกรงจะโดนทุบกระจกหากเอาไว้ในรถ แต่ไม่ได้เฉลียวใจว่า กระโปรงท้ายปิดไม่สนิท มารู้อีกทีตอนรถติดสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกรามคำแหง-พระราม 9 คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์มาบอก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดคืนเจ้าของเรียบร้อยแล้ว นางวรรณรดากับสามีชาวแคนาดาได้ควักเงิน 50,000 บาท ให้แก่นายพิทยา มูลดี เพื่อเป็นสินน้ำใจตอบแทนความซื่อสัตย์ ที่เป็นพลเมืองดีเก็บเงินนับล้านบาทส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยประกาศตามหาเจ้าของ