ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ธ.ค.
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ต.ท.บุญเรือง ผลพาณิชย์ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วยตัวแทน บช.ภ.1-9 บช.ก. บก.ตชด. นายเรืองศักดิ์ กิตติสารกุล ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และตัวแทนธนาคารพาณิชย์ ร่วมประชุมเพื่อหารือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดการใช้ธนบัตรปลอม
ภายหลังการประชุมร่วมกันนานเกือบ 2 ชั่วโมง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. กล่าวว่า ในที่ประชุมสรุปผลพบว่าธนบัตรปลอมสามารถจับกุมได้ทุกปี
แต่พบเป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนธนบัตรที่หมุนเวียนในตลาด อีกทั้ง ธปท.ยืนยันว่าธนบัตรใบละ 1000 บาทที่ออกมาจากตู้เอทีเอ็มนั้นถูกต้องทุกใบ ตำรวจและ ธปท.จึงได้วางมาตรการร่วมกัน โดยเน้นการเผยแพร่ข้อมูลการตรวจสอบธนบัตรปลอมให้ประชาชนทราบ เพราะปกติตำรวจสามารถจับกุมธนบัตรปลอมได้ทุกปีอยู่แล้ว แต่ในปีนี้สามารถจับกุมได้จำนวนมาก จึงทำให้ดูเหมือนมีการแพร่ระบาด
ด้านนายเรืองศักดิ์ กิตติสารกุล ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดธนบัตรปลอมในปัจจุบันไม่รุนแรง
แต่พบว่ามีมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในภาวะปกติ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดมากน้อยจะสลับกันทุกปีอยู่แล้ว โดยปีนี้แหล่งระบาดที่พบอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวในภาคอีสาน คาดว่าสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจ ผู้ที่ทำไม่มีอาชีพ เชื่อว่า 100 เปอร์เซ็นต์ผลิตขึ้นในประเทศไทย ซึ่งคุณภาพยังต่ำแตกต่างจากของจริงมาก ประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตความแตกต่างด้วยตนเองได้ ส่วนตู้เอทีเอ็มทุกธนาคารที่ได้รับธนบัตรมาต้องมีการพิสูจน์ผ่านเครื่องคัดแยกธนบัตร โดยธนบัตรที่เสียหรือปลอมจะถูกคัดออก ยืนยันว่าเครื่องมีคุณภาพสูงไม่เคยขัดข้อง จากนั้นจะมีกรรมการจากธนาคารต่างๆ มาตรวจสอบอีกครั้งก่อนนำไปใส่กล่องที่จะนำไปไว้ในเครื่องเอทีเอ็ม จึงมีความปลอดภัยมาก
พล.ต.ต.บุญส่ง พาณิชย์อัตรา รอง ผบช.ภ.8 กล่าวถึงกรณีที่มีคนได้รับธนบัตรปลอมมาจากตู้เอทีเอ็มใน จ.กระบี่ ว่า ธนาคารได้ตรวจสอบธนบัตรดังกล่าวแล้วพบว่าเป็นธนบัตรปลอม
และทางธนาคารยืนยันว่าถ้าเป็นธนบัตรปลอมเครื่องจะปฏิเสธทันที ตำรวจจึงได้นัดธนาคารทดสอบเครื่องว่าจะไม่รับธนบัตรดังกล่าวจริงหรือไม่ เพื่อพิจารณาคดีอีกครั้ง ส่วนผู้ที่นำมาใช้จะถูกดำเนินคดีหรือไม่ต้องอยู่ที่ผลการสอบสวน สำหรับกรณี น.ส.ราตรี หมั่นมา อายุ 28 ปี พนักงานแขวงการทางกระบี่ กดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของ 2 ธนาคารคือ ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยห้างเทสโก้ โลตัส กระบี่ โดยกดตู้ละ 600 บาท เป็นธนบัตรฉบับละ 500 บาท ตู้ละ 1 ใบ และฉบับละ 100 บาท ตู้ละ 1 ใบ แล้วนำไปซื้อสินค้าในห้าง แต่ปรากฏว่ามีธนบัตรฉบับละ 500 บาท ปลอม 1 ใบ สภาพเก่ามีรอยขาดและมีเทปใสปิดทับไว้นั้น
ความคืบหน้า ร.ต.ท.ปรัชญ์ เพชรพันธ์ ร้อยเวร สภ.เมืองกระบี่ เจ้าของคดีเผยว่า ได้เดินทางไปที่ห้างเทสโก้ โลตัส กระบี่
ตรวจสอบที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย เจ้าหน้าที่ของธนาคารนำภาพวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็มขณะที่ น.ส.ราตรีมากดเงินพบว่า ธนบัตรใบละ 500 บาท กับ 100 บาทที่ออกมาเป็นธนบัตรใหม่ทั้ง 2 ใบ ไม่ใช่เป็นธนบัตรที่นำมาแจ้งความเพราะสภาพใหม่มาก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตู้เอทีเอ็มจากศูนย์ใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี จะมาเปิดตู้เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์นั้นไม่มีกล้องวงจรปิด จึงสอบปากคำผู้จัดการไว้ จะต้องรอเจ้าหน้าที่ของธนาคารมาตรวจสอบอีกครั้งเช่นกัน
ร.ต.ท.ปรัชญ์เผยด้วยว่า น.ส.ราตรียืนยันว่า ธนบัตรที่เป็นของปลอมกดมาจากตู้เอทีเอ็มบนห้างโลตัสแน่นอน
แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามาจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารใดโดยมีสลิปการถอนเงินจากตู้เอทีเอ็มของ 2 ธนาคาร พร้อมสมุดบัญชีเงินฝากที่มีการปรับยอดในวันที่กดเงินจากตู้ เอทีเอ็มมายืนยัน ซึ่งหลังจากกดเงินออกมาแล้วได้นำมารวมกัน อาจจะสับสนมีการเปลี่ยนกับเงินที่มีอยู่ก่อนนำไปซื้อของที่ห้าง จะต้องใช้เวลารวบรวมหลักฐานและสอบสวน อย่างละเอียดรัดกุม อย่างไรก็ตาม สอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ยืนยันว่า ทางธนาคารจะไม่นำธนบัตรที่ชำรุดมาใส่ในเครื่องเอทีเอ็มเด็ดขาด ก็จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้าน น.ส.สุปริญญา สุขนิตย์ รองผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยเทสโก้ โลตัส กระบี่ ยืนยันว่า ธนบัตรปลอมที่พบนั้นจะไม่สามารถผ่านตู้เอทีเอ็มของธนาคารได้
เพราะมีระบบตรวจสอบที่รัดกุม หากพบว่าเป็นธนบัตรปลอมก็จะทราบทันทีและไม่สามารถนำไปใส่ในตู้เอทีเอ็มได้ หากต้องการตรวจสอบรายละเอียดที่มากกว่านี้ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ของศูนย์ใหญ่จาก จ.สุราษฎร์ธานี มาพิสูจน์อีกครั้ง เช่นเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ที่ธนบัตรปลอมจะอยู่ในตู้ เพราะมีการนับด้วยคนและตรวจสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีความชัดเจนอย่างมาก