กรุงเทพฯ 20 ธ.ค.- นายไพบูลย์ ขวัญบุรี ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพย์สิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า วันนี้ (20 ธ.ค.) ธอส.ได้นำสินทรัพย์รอการขายหรือเอ็นพีเอ
หรือบ้านมือสองออกประมูลขาย ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของปี 2551 พร้อมกันทั่วประเทศ ให้ผู้สนใจเข้าประมูลซื้อพร้อมกันทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขาทุกจังหวัด โดยมีบ้านมือสองกว่า 3,000 รายการ มูลค่ารวมประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะขายได้ประมาณร้อยละ 50 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท สำหรับที่อยู่อาศัยที่นำออกมาเปิดประมูลส่วนใหญ่ที่คัดเลือกมามีราคาไม่สูงนักเหมาะกับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และจากการพิจารณาลักษณะของผู้ที่มาซื้อส่วนใหญ่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัย ไม่ได้ซื้อเพื่อการเก็งกำไร โดยทำเลที่ขายดีได้แก่ บางกะปิ ลาดพร้าว สมุทรปราการ ซึ่งอยู่ใกล้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น
สำหรับการขายเอ็นพีเอนั้น แต่ละปี ธอส. มียอดขายปีละประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท ซึ่งปี 2551 มียอดขายในระดับนี้เช่นกัน
เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก ในขณะที่ปี 2550 มียอดขายสูงถึงประมาณ 3,500 ล้านบาท เพราะขณะนั้นเศรษฐกิจของประเทศดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และปี 2552 คาดว่าจะมียอดขายบ้านมือสองได้ประมาณ 2,000 ล้านบาทเท่า ๆ กับปี 2551 เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดีนัก กำลังซื้อของประชาชนมีไม่มากนัก
ส่วนยอดรวมของสินทรัพย์รอการขายของ ธอส. แต่ละปีมียอดประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท แม้ธนาคารต้องการระบายออกไปให้มากที่สุด
แต่บ้านที่สิ้นสุดคดีแล้วตกเป็นสินทรัพย์รอการขายที่กรมบังคับคดีก็มีอยู่จำนวนหนึ่ง ที่ธนาคารแต่ละแห่งก็ต้องซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน ไม่เช่นนั้นหากมีสินทรัพย์รอการขายที่กรมบังคับคดีมาก ก็จะทำให้ราคาขายไม่ดี และส่งผลต่อราคาสินทรัพย์รอการขายมีราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ ก็มีบางส่วนที่ธนาคารได้ขายออกไปแต่ผู้ผ่อนชำระมีปัญหารายได้ไม่เพียงพอ จนต้องกลับมาเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้และที่สุดขึ้นสู่การฟ้องร้องแพ้คดี และกลับมาเป็นสินทรัพย์รอการขายอีกก็มี โดยมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 5 ของสินทรัพย์รอการขายที่ขายออกไป ส่วนใหญ่มีราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
