เทศกาลปีใหม่ปีนี้สุดคึกคัก นักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวไปตามแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามต่างๆ
เพื่อสัมผัสอากาศหนาวและเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันให้ฉ่ำใจ เนื่องจากมีวันหยุดยาวถึง 5 วัน ติดต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกางเต็นท์ตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ ของนักท่องเที่ยวแนวติดดินหรือพวกชอบ ธรรมชาติ รักสายลมและแสงแดด ทั้งนี้ นายจงคล้าย วชิรพงศธร ผอ.ส่วนนโยบายและแผน สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยเมื่อ 18 ธ.ค.ว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 กระทรวงทรัพยากรฯ ได้มอบนโยบายให้อุทยานแห่งชาติสำคัญ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมาก
โดยเฉพาะอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ เตรียมมาตรการรองรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงวันที่ 25 ธ.ค. 51-2 ม.ค. 52
ทั้งการจัดเตรียมพื้นที่ การแก้ปัญหาการจราจร การรักษาความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนที่พักและจุดกางเต็นท์ ซึ่งเดิมไว้เพียง 3 แห่งคือบริเวณดงสน ผาตั้งและน้ำตกกิ่วแม่ปานที่รองรับต่อช่วงเวลาได้สูงสุดไม่เกิน 2,500 คน ต่อช่วงเวลา แต่จากเทศกาลวันพ่อแห่งชาติระหว่าง 5-7 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากกว่า 4,000 คน ดังนั้น ในเทศกาลปีใหม่ อุทยานอินทนนท์ จึงขยายจุดกางเต็นท์เพิ่มอีก 9 จุด โดยคาดว่าจะรองรับเพิ่มอีก 1,000 คน เป็นพื้นที่ของกรมวิชาการเกษตร หน่วยจัดการต้นน้ำ บ้านแม่กลางหลวง เป็นต้น
นายจงคล้ายกล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการรองรับ อุบัติเหตุ ซึ่งพบว่าระหว่างปี 2548-2550 มีผู้เสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บอีกเกือบ 100 ราย
เนื่องจากสภาพรถและผู้ขับไม่ชำนาญพื้นที่ ขณะนี้ได้แก้ปัญหาด้วยการจัดรถสองแถวจำนวน 25 คัน รถตู้อีก 15 คัน รวม 40 คัน ไว้ รองรับนักท่องเที่ยวในบริเวณ กม. 9 ถนนสายขึ้นดอยอินทนนท์และอีกจุดที่น้ำตกวังควาย ทั้งสองจุดยังรองรับรถของนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 200 คัน ที่จะลดการแออัดของรถที่จะขึ้นไปบนยอดดอยและลดปัญหามลพิษจากปริมาณ อย่างไรก็ตาม รถที่จัดมาบริการจะต้องเสียค่าบริการประมาณคันละ 1,300-1,500 บาท และรถเหมาจะพานักท่องเที่ยวไปยังจุดสำคัญ เช่น น้ำตกวชิรธาร พระมหาธาตุเจดีย์ กิ่วแม่ปาน เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา เป็นต้น
ทั้งนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ผู้ที่ประสงค์จะนำรถขึ้นไปก็ยังสามารถทำได้ ไม่ได้ห้ามรถขึ้นแต่อย่างใด
เพียงแต่จะเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยว เนื่องจากในรถแต่ละคันจะมีมัคคุเทศก์ ซึ่งจัดเตรียมไว้ 40 คน ทำหน้าที่ให้ความรู้ของแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งวิถีชีวิตของผู้คนบนดอยอินทนนท์ด้วย เป็นการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และกระจายรายได้ให้ท้องถิ่น
“ขณะนี้อินทนนท์ เป็นหนึ่งใน 10 แห่ง ที่ต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับขีดความสามารถด้านการท่องเที่ยว เพราะช่วงเทศกาลปีใหม่ปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่า 10,000 คนต่อวัน ทำให้จุดกางเต็นท์มีสภาพเหมือนกับสลัมเต็นท์ เพราะต้องกางติดๆกันมาก รวมทั้งมีการจราจรที่ติดขัดมากตลอดเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ ดังนั้น ปีนี้จึงเริ่มนำมาตรการต่างๆมาใช้ เช่น หากมีนักท่องเที่ยวขึ้นมากจนเกิดปัญหาจะมีการเปิดไฟวิ่งตรงปากทางเข้าอุทยาน 2 แห่ง เพื่อประสานให้เจ้าหน้าที่ด้านล่างคอยประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบ แนะนำให้นักท่องเที่ยวไปเข้าชมในแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงก่อน ทั้งนี้คิดว่านักท่องเที่ยวก็น่าจะเข้าใจ นอกจากนี้ยังได้ประสานกับกองทัพอากาศ เพื่อนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินตรวจสภาพการจราจร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาด้วย” นายจงคล้ายกล่าว