นายไพบูลย์ ภู่เจริญ ประธานกิตติม ศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในงานสัมมนาโอกาสทองสินค้าไทยในตลาดอียูว่า
ภาคเอกชนคาดว่าการส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ปีหน้าจะขยายตัวติดลบไม่ต่ำกว่า 20% จากการส่งออกกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนของปีนี้ ที่คาดว่ามีมูลค่าที่ 500,000-550,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก ทำให้คำสั่งซื้อยานยนต์จากทั่วโลกชะลอลง
“ปีหน้าคาดการณ์ได้ยากลำบากมาก แต่เอกชนมองว่าการส่งออกกลุ่มยานยนต์คงลดต่ำกว่าปีนี้มากกว่า 20% แน่ เพราะตลาดหลักที่นำเข้ายานยนต์จากไทยชะลอการสั่งซื้อหมดไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือแม้กระทั่งตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกอันดับสองของกลุ่มยานยนต์ไทย เพราะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง”
อย่างไรก็ตามปีหน้ากลุ่มยานยนต์ไทย ยังพอมีปัจจัยบวกช่วยพยุงการส่งออกยานยนต์ในปีหน้าไม่ให้ขยายตัวลดลงกว่านี้
คือการได้รับคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) จากสห ภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะทำให้รถปิกอัพที่คิดเป็นสัดส่วน 100% หรือทั้งหมดของการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปไปตลาดอียูได้รับการลดภาษีในเครื่องยนต์มากกว่า 2500 ซีซี 6.5% จากอัตราภาษีนำเข้าปกติ 10% และรถที่มีเครื่องยนต์น้อยกว่า 2500 ซีซี ภาษีนำเข้าเหลือ 15.4% จากอัตราภาษีปกติ 22% โดยเริ่มมีผลวันที่ 1 ม.ค. 52
“จีเอสพีที่ได้จากอียู คงไม่เพียงพอที่จะช่วยทำให้กลุ่มยานยนต์พลิกกลับไปเติบโตในปีหน้าได้ เพราะวิกฤติเศรษฐกิจโลกกระทบหนักมาก แต่ก็น่าจะประคองตัวให้การส่งออกรถปิกอัพไปตลาดอียูเสมอตัวหรือลดลงไม่มาก”
นายธำรง ธิติประเสริฐ ประธานที่ปรึก ษากลุ่มอุตสาหกรรมรองเท้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า
การส่งออก รองเท้าในปีหน้าจะขยายตัวติดลบไม่เกิน 5% จากปีนี้ที่มีมูลค่าส่งออก 32,000 ล้านบาท โดยตลาดที่มีปัญหาการส่งออกลดลง ได้แก่ ตลาดสหรัฐ ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกรองเท้าไทย 23% แต่อาจได้รับผลดีจากการคืนสิทธิจีเอสพีของตลาดอียูที่มีสัดส่วนการส่งออก 33% ทำให้ภาษีนำเข้ารองเท้าไทยเหลือ 3-5% จากปกติ 8-9%
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
