ผู้สื่อข่าวรายงานจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ว่า วานนี้ (15 ธ.ค.) ททท.ได้แถลงเปิดตัว “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังของเมืองไทย
เป็นพรีเซ็นเตอร์ โครงการ “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” ตลอดปี 2552 โดยหวังว่าจะกระตุ้นความรู้สึกของคนไทยให้หันมาท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อส่งผลให้เกิดสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ และมีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ โดยระหว่างการแถลงเปิดตัวได้มีพนักงานของ ททท.จำนวนมากมาเฝ้ารอถ่ายรูป จนเบิร์ด-ธงไชยถึงกับเอ่ยปากในระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัวว่า ไม่เคยเจอพิธีต้อนรับที่ไหนอบอุ่นเท่านี้มาก่อน
นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตามที่บอร์ด ททท.เห็นว่าแผนการตลาดท่องเที่ยวในประเทศได้กำหนดกลยุทธ์ให้บุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาเป็นพรีเซ็นเตอร์เชิญชวนเที่ยวไทย
และได้อนุมัติให้บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนดำเนินงาน และเลือกเบิร์ด-ธงไชย ซึ่งเป็นที่รักของคนทั่วประเทศมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ จะช่วยให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ดีขึ้นมาได้ และจะเริ่มเห็นเบิร์ด-ธงไชยตามสื่อต่างๆตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นไป
ด้านเบิร์ด-ธงไชยกล่าวว่า ขอขอบคุณ ททท. ที่ให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และยินดีมากๆ แม้เป็นส่วนเล็กๆก็ยินดีที่ได้ทำหน้าที่นี้
อย่างน้อยที่สุดบ้านเมืองนี้ทำให้เกิดขึ้นมา ทำให้มีกินมีใช้ มีแฟนเพลง ฉะนั้นบ้านเมืองเรา เราก็ต้องช่วยกัน และคงต้องช่วยกันใช้จ่ายในประเทศ เพราะจากที่ได้เดินทางไปในหลายประเทศ แม้จะมีความสวยงาม แต่เราไม่ได้เป็นเจ้าของ ดังนั้น ใครชอบไปเที่ยวเมืองนอกก็ขอให้เอาความสุขมาเที่ยวไทยดีกว่า ขณะที่ น.ส.บุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กล่าวว่า ดีใจที่มีส่วนช่วยชาติเพราะตอนเด็กๆ ไม่เคยคิดว่าการท่องเที่ยวจะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งจีเอ็มเอ็มแกรมมี่จะทำงานอย่างดีที่สุด จะทำให้ทุกคนภูมิใจ และทำให้รู้สึกว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นเรื่องใหญ่ เที่ยวที่ไหนก็สู้เที่ยวในประเทศไม่ได้
ส่วนนางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการฝ่ายสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท.ได้ว่าจ้างจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 62 ล้านบาท
เพื่อสื่อสารภาพการท่องเที่ยวผ่านชิ้นงานต่างๆ ได้แก่ ภาพยนตร์ โฆษณา ภาพนิ่ง สปอตวิทยุ รวมทั้งเบิร์ด-ธงไชย จะขับร้องบทเพลงพิเศษที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่จะแต่งขึ้นใหม่เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะ พร้อมจัดทำมิวสิกวีดิโอเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมสนับสนุนการท่องเที่ยวอีกคือ การจัดประกวดภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อขยายผลโครงการระยะต่อไป
“วงเงิน 62 ล้านบาทนี้ จ้างเบิร์ด-ธงไชย 20 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 42 ล้านบาทเป็นค่าบริหารโครงการของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ผ่านการจัดทำชิ้นงานต่างๆ รวมทั้งการวางสื่อโฆษณาที่จัดทำขึ้นผ่านช่องทางต่างๆด้วย โดยการทำโครงการนี้เพื่อให้คนไทยท่องเที่ยวภายในประเทศได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 84 ล้านคน/ครั้ง หรือ 84 ล้านทริป เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 441,000 ล้านบาท”
ด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท. กล่าวถึงภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เข้ามาไทยในปี 2551 ว่า คงต่ำกว่าเป้าที่คาดไว้ที่ 15.48 ล้านคน คงได้ที่ 14.46 ล้านคน เท่ากับปี 2550 จึงถือว่าไม่ติดลบ
แต่ไม่มีการขยายตัว ซึ่ง ททท.อยู่ระหว่างจัดทำแผนการตลาดต่างประเทศปี 2552 ใหม่เพื่อเสนอรัฐบาลชุดใหม่ นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า ผลจากปัญหาการเมืองและการปิดสนามบิน คงจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เข้ามาในไทยลดลงจากปี 2550 ประมาณ 15-20% จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาปลดคนงาน ซึ่งเท่าที่สำรวจแรงงานในอุตสาหกรรมโรงแรม ร้านอาหาร และภัตตาคารที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรงมี 1.1 ล้านคน อาจจะต้องตกงานถึง 15% จึงอยากให้รัฐบาลสร้างความต้องการเทียม ด้วยการส่งเสริมให้หน่วยงานรัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน จัดงานประชุม และสัมมนาในช่วง 6 เดือนจากนี้ไป
“วิธีการคล้ายกับที่แมทชิ่ง ฟันด์ คือ รัฐบาลกลางออกเงิน เช่น 10,000 ล้านบาท และให้องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อบท.) ออกอีก 20,000 ล้านบาท รวม 30,000 ล้านบาท หากเม็ดเงินดังกล่าวเกิดการหมุนเวียน จะช่วยเข้ามาทดแทนรายได้ที่จะหายไปจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 100,000 ล้านบาท ได้ส่วนหนึ่ง และคงไม่เกิดปัญหาการเลิกจ้างงานเกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องการให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมไทยแลนด์ มีประกอบด้วยการท่องเที่ยว การส่งเสริมการลงทุน และการหาตลาดส่งออกที่เป็นรูปธรรม อย่างแท้จริง”.