แบงก์ประเมินปีหน้าปัญหาเอ็นพีแอลปูด ชี้เริ่มมีสัญญาณมากขึ้น ลดเป้าการปล่อยสินเชื่อ หันดูแลลูกค้าให้แข็งแกร่งสู้ภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ มองมีความเสี่ยงเป็นหนี้เสียหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมได้รับผลกระทบหนัก
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า
ในปีหน้าความต้องการสินเชื่ออาจจะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ ทำให้การขยายสินเชื่อของธนาคารจะต่ำกว่าปี 2551 อย่างแน่นอน โดยธนาคารต้องเพิ่มความพยายามเข้าไปใกล้ชิดลูกค้ามากขึ้น เพื่อประคับประคองให้ลูกค้าแข็งแกร่งในภาวะเศรษฐกิจผันผวน ซึ่งปีหน้าในการปล่อยสินเชื่อธนาคารจะให้ความสำคัญกับกลุ่มสินเชื่อขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีเป็นหลัก
ด้านนางกรรณิการ์ ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า
สัญญาณหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เริ่มมีให้เห็น ซึ่งประเมินว่าในปีหน้าปัญหาเอ็นพีแอลเกิดขึ้นแน่ และกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นหนี้เสีย พบว่ามีแทบทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมที่ได้รับผลกระทบมาก และน่าเป็นห่วง ทั้งนี้ ธนาคารมีทีมที่ดูแลและติดตามกลุ่มเสี่ยงหลังวิกฤติ โดยลูกค้าหลายรายขณะนี้ได้รับผลกระทบและมีปัญหาเรื่องกระแสเงินสด
"กลยุทธ์ของธนาคารในปีหน้า ไม่ใช่การขยายสินเชื่อ แต่จะเป็นการเข้าไปดูแลลูกค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกค้ารู้ทันสถานการณ์และเตรียมตัวป้องกันปัญหาได้" นางกรรณิการ์กล่าว
ด้านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า
ในปีหน้ายอดเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงนี้ลูกค้ายังไม่มีการติดต่อเข้ามายังธนาคาร เนื่องจากเป็นช่วงต้นๆ ของสถานการณ์ ผู้ประกอบการจะแก้ไขปัญหาเอง ด้วยการปรับลดค่าใช้จ่ายและปรับลดพนักงาน และเมื่อไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ก็จะติดต่อมายังธนาคาร โดยธนาคารจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้ากลุ่มนี้
"วิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐและหลายๆ ประเทศทั่วโลกในขณะนี้กำลังก่อให้เกิดปัญหากับภาคธุรกิจและภาคการผลิต เห็นได้ชัดเจนในปีหน้า ทำให้คาดว่าธุรกิจที่ล้มละลายจะมีมากกว่าในอดีต เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ปิดสนามบินในประเทศแล้วถือว่ายังมีความรุนแรงมากกว่า เพราะทำให้ภาคการส่งออกของไทยในปีหน้านั้นนอกจากหาตลาดยากขึ้นแล้วยังเผชิญความเสี่ยงที่จะไม่ได้เงินค่าสินค้าอีกด้วย" นายอภิศักดิ์กล่าว
ด้าน นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย กล่าวว่า
จากแนวโน้มความเสี่ยงมากขึ้นในปีหน้าธนาคารจึงได้ทบทวนแนวทางการปล่อยสินเชื่อ ทั้งสัดส่วนสินเชื่อที่เหมาะสมและกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารต้องระมัดระวัง โดยกลุ่มธุรกิจที่ธนาคารต้องระวังในปี 2552 ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก และโรงแรม เนื่องจากราคาเหล็กปรับลดลงมาก ขณะที่กลุ่มโรงแรมได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมือง