เตือนการเมืองไม่นิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจดิ่งหนัก ประเมินปีหน้า 2 ไตรมาสแรกจีดีพีติดลบ จี้รัฐเร่งเดินหน้าทำงานฟื้นเศรษฐกิจ "สุชาติ" คาดปี 2552 โตได้ 2% ผู้บริโภคผวาดัชนีเชื่อมั่นเดือนพฤศจิกายนทรุดต่ำสุดรอบ 7 ปี เหตุการเมืองป่วนปิดสนามบินกระทบเศรษฐกิจ
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า
จากปัญหาการเมืองและการปิดสนามบิน ทำให้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4 จะขยายตัวเพียง 1% ส่วนในปีหน้าประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ระหว่าง 0-2% ภายในเงื่อนไขไม่มีปัญหาการเมืองซ้ำซ้อน และรัฐบาลสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคได้ แต่หากยังมีปัญหาการเมือง อาจทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวติดลบ โดยเศรษฐกิจไตรมาสแรกจะขยายตัวติดลบ 1-2% และไตรมาส 2 ติดลบ 2-3% เพราะการใช้จ่ายลดลง ซึ่งอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 9 แสนคนเป็น 1.3 ล้านคน
"การมีรัฐบาลโดยเร็วและการเมืองนิ่ง ไม่มีการชุมนุมประท้วงรุนแรงเกิดขึ้น เศรษฐกิจจะไปได้ หากมีประท้วงจะทำให้เสี่ยงต่อการยุบสภา จะทำให้เศรษฐกิจไทยมีโอกาสติดลบ ถ้ายุบสภาฯ อย่างน้อยต้องใช้เวลา 60 วัน กว่าจะเลือกตั้งและใช้เวลามากกว่านั้นในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะมีปัญหาการเบิกจ่ายงบประมาณที่ไม่เป็นไปตามกำหนด" ผศ.ดร.ธนวรรธน์กล่าว
ผศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2551 ว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นทั้ง 3 รายการปรับลดลงจากเดือนตุลาคม และต่ำสุดในรอบ 7 ปี ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ลดลงมาที่ 67.1 ดัชนีเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ ลดลงอยู่ที่ 67.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ลดลงอยู่ที่ 87.8 โดยปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงมากมาจากปัญหาการเมือง การปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งส่งผลเสียหายต่อการท่องเที่ยว ระบบเศรษฐกิจ รวมทั้งวิกฤติสถาบันการเงินสหรัฐเริ่มมีผลกระทบต่อสถาบันการเงินทั่วโลก
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าวเสริมว่า
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายนทุกรายการต่ำสุดในรอบ 7 ปี และเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่ความเชื่อมั่นจากผลกระทบทางด้านการเมืองมีมากกว่าราคาน้ำมัน ซึ่งความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลต่อจิตวิทยาของประชาชนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ทำให้ทุกดัชนีมีสัญญาณไม่สดใส แม้ราคาน้ำมันจะปรับตัวลดลง แต่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมองว่าค่าครองชีพค่อนข้างสูง จึงอยากฝากกรมการค้าภายในดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
เศรษฐกิจปีหน้าจะอยู่ในภาวะถดถอย โดยการขยายตัวไตรมาสแรกจะขยายตัวติดลบ 0.5-1.0% ส่วนไตรมาส 2 จะขยายตัว 0% จากนั้นเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3-4 ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจปีหน้าขยายตัวเพียง 2% ตามคาดการณ์ของธนาคารโลก ขณะที่ในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดว่าจะขยายตัว 1% ส่งผลให้ปีนี้ขยายตัว 3-4%