ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. น.ส.วีรินทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
แถลงผลการประชุม ครม.รักษาการ ที่มีนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกฯ เป็นประธานการประชุมว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้เพิ่มวันหยุดราชการอีก 1 วัน เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีวันหยุด คือวันพุธที่ 31 ธ.ค. 2551 และวันพฤหัสบดีที่ 1 ม.ค. 2552 จึงเห็นชอบให้เพิ่มวันหยุดอีก 1 วัน คือ วันที่ 2 ม.ค. 2552 ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีวันหยุดยาวไปกลับภูมิลำเนา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า หลังจากมติ ครม.ให้วันที่ 2 ม.ค. 2552 เป็นวันหยุดราชการอีก 1 วัน
ธปท.ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ภายหลังการประชุม ธปท. ได้ทำหนังสือประกาศ ลงชื่อโดยนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธปท. มีใจความว่า มีมติให้วันที่ 2 ม.ค. 2552 เป็นวันหยุดงานของธนาคารด้วย ทำให้ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินทุกแห่ง รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จะหยุดงานในวันที่ 2 ม.ค. 2552 เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน ทำให้มีวันหยุดติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน มติดังกล่าวถือเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากตามปกติแล้วธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต้องติดต่อและให้บริการด้านการเงินกับประชาชนในประเทศ และการติดต่อกับต่างประเทศ ทำให้มีกฎไม่ให้หยุดงานติดต่อกันยาวนานกว่า 4 วัน แต่เนื่องจากครั้งนี้ถือเป็นช่วงปีใหม่ ธปท.จึงเห็นว่าควรจะยอมให้หยุดติดต่อกันเป็นกรณีพิเศษ 5 วันทำการได้
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ประชาชนมีปัญหาติดขัดในการใช้จ่ายเงินสด ธปท.จึงจะสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ ทุกแห่ง เตรียมเงินสดสำรองไว้สำหรับเบิกจ่ายในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี มากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา
นอกจากนั้นให้เตรียมความพร้อมในการใส่เงินสดในตู้เอทีเอ็มทุกแห่ง ให้เพียงพอต่อความต้องการกดเงินของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเงินสดหมดตู้ และประชาชนไม่สามารถจะเบิกเงินผ่านตู้เอทีเอ็มได้ ในช่วง 5 วันที่ธนาคารปิดดำเนินการ