คนไทยได้เฮลั่นอีกระลอกราราน้ำมันดีเซลหลุด 20 บาทต่อลิตร เป็นครั้งแรกในรอบ 42 เดือน หรือเกือบ 4 ปี
ผลพวงภาวะเศรษฐกิจโลกทรุดฮวบ นักวิเคราะห์ ชี้ ปีหน้าราคาน้ำมันดิบร่วงเหลือบาร์เรลละ 25 เหรียญ แน่ ด้านโรงกลั่นขาดทุน สต๊อกแล้วกว่าหมื่นล้านบาท สอท. ชี้ยังไม่พอใจ เพราะราคาที่แท้จริงควรอยู่ที่ 14-15 บาทต่อลิตร
ที่กระทรวงพลังงาน เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ผู้ค้าน้ำมันทุกรายได้ปรับลดราคาน้ำมันทุกชนิดลงอีกลิตรละ 60-80 สต. ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 9 ธ.ค. เป็นต้นไป ทำให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขตกทม.และปริมณฑล โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลลดต่ำกว่าลิตรละ 20 บาท เป็นครั้งแรกในรอบ 42 เดือนหรือเกือบ 4 ปี ซึ่งอยู่ที่ลิตรละ 19.84 บาท ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 16.89 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 16.09 บาทต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่า 20 บาท เช่นกัน ขณะที่เบนซิน 95 อยู่ที่ 26.59 บาทต่อลิตร ส่วนเบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 21.39 บาทซึ่งเป็นการปรับลดลงตามตลาดโลกที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเหลือเพียง 40.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ ดูไบ ราคา 38.84 ดอลลาร์
คนไทยเฮดีเซลลงต่ำกว่า 20 บ.
นายเทียนไชย จงพีร์เพียร นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า
ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงิน ทำให้การใช้น้ำมันในสหรัฐ-ยุโรป ลดลง ขณะที่การเก็งกำไรจากบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันด์ ได้หายไปจากตลาด และพบว่าราคาน้ำมันเบนซินที่ต่ำกว่าน้ำมันดิบ ส่งผลให้โรงกลั่นฯ ประสบปัญหาขาดทุน ค่าการกลั่นตกต่ำ ส่วนราคาดีเซลแม้สูงกว่าน้ำมันดิบ แต่หากผ่านพ้นฤดูหนาวไปแล้วก็น่าเป็นห่วงว่าราคาจะลดลง ดังนั้น ทุกโรงกลั่นฯ ต้อง บริหารโรงกลั่นฯ ให้อยู่รอดเพราะช่วงนี้อาจขาดทุนสต๊อกรวมกันกว่า 10,000 ล้านบาทแล้ว
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปตท. กล่าวว่า
ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจยังคงเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลด้านจิตวิทยาในวงการน้ำมัน และส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอื่น ๆ เป็นลูกโซ่ โดยนักวิเคราะห์จากหลายสถาบันคาดว่าหากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำส่งผลกระทบต่อประเทศจีนที่เป็นผู้บริโภครายใหญ่ของโลก อาจทำให้ราคาน้ำมันดิบในปีหน้าปรับลดลงถึงระดับ 25 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลได้
“ราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มลดลงอีกครั้ง จากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และยุโรป ล่าสุดสถิติการปลดพนักงานในสหรัฐ เดือน พ.ย. 51 มีอัตราสูงสุดในรอบ 34 ปี อยู่ที่ระดับ 533,000 อัตรา และคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันเฉลี่ยในปีหน้าอยู่ที่ระดับ 86.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค. 51 น้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 39.00 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันสำเร็จรูปตลาดสิงคโปร์ เบนซินอยู่ที่ 34.60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และดีเซลอยู่ที่ 57.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล”
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า
เป็นเรื่องที่ดีที่ราคาน้ำมันดีเซลลดลงอย่างมากเพราะจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ระดับหนึ่ง แต่ตามหลักแล้วราคาน้ำมันดีเซลควรอยู่ที่ 14-15 บาทต่อลิตร แม้ราคาจะลดลงมาแต่เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมถือว่าไม่คุ้มค่ากับภาคอุตสาหกรรม เพราะน้ำมันที่ลดลงนั้นมาจากเศรษฐกิจไม่ดีส่งผลให้โรงงานต้องลดกำลังการผลิตลง.