เมืองไทยประกาศศักดาความเป็นผู้นำด้านอัญมณีของโลก
เปิดตัวผลงานชิ้นเอกหนึ่งเดียวของโลก “ปลาคาร์พมงคล” ประดับบุษราคัมกว่า 5,400 กะรัต ครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 8 ธ.ค. นายอดิศักดิ์ ถาวรวิริยะนันท์ นายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี เปิดเผยว่า ทางสมาคมและสมาชิกรวมถึงผู้ประกอบกิจการอัญมณี ร่วมกันจัดงาน “เปิดโลกอัญมณีและของดีเมืองจันท์ ครั้งที่ 5” ขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 ธ.ค.นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี โรงแรมเคพีแกรนด์ อ.เมืองจันทบุรี โดยเรียนเชิญนายพูลศักดิ์ ประณุทนรพาล ผวจ.จันทบุรี เป็นประธานเปิดงาน มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่ ชื่อเสียงความเป็นแหล่งพลอยสวยของประเทศไทย ผลงาน
การผลิตอัญมณีและเครื่องประดับจนเป็นที่รู้จักของทั่วโลก โดยร้อยละ 80 ของอัญมณีไทยที่ส่งออกไปยังตลาดโลก ล้วนเจียระไนมาจากฝีมือช่างไทยใน จ.จันทบุรี
สร้างรายได้จากการส่งออกปีละนับแสนล้านบาท โดยปัจจุบัน จ.จันทบุรี เป็นศูนย์กลางการซื้อขายพลอยที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับผลงานชิ้นเอกที่จะมาร่วมจัดแสดงในงานดังกล่าว คือ “อัญมณีแห่งสายน้ำ ปลาคาร์พมงคล” จัดสร้างและผลิตโดยร้านธัญมณี จันทบุรี ของนางสุภาพร นิยมกิจ เป็นผลงานที่รังสรรค์ผ่านแนวความคิดของนายชายพงษ์ นิยมกิจ วัย 29 ปี บุตรชายของนางสุภาพร โดยยึด “ปลาคาร์พ” (Fancy Carp) สายพันธุ์สีเหลืองทอง หรือสายพันธุ์ “Ogon” มาใช้เป็นต้นแบบ ตามความเชื่อของคนเอเชียที่ว่า ปลาคาร์พเป็นปลาที่กล้าหาญไม่ท้อถอยและมีอายุยืนคือ 60-100 ปี ถือเป็นตัวแทนของความสำเร็จ ความพยายาม โชคลาภ และอายุยืนยาว ด้วยความที่มีหลากหลายสีของเกล็ดและสายพันธุ์ ทำให้ ปลาคาร์พได้ชื่อว่าเป็น “อัญมณีแห่งสายน้ำ”
นางสุภาพรกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของปลาคาร์พที่จัดสร้างขึ้น เริ่มต้นถอดแบบทุกสัดส่วนจากปลาคาร์พจริงมีความยาว 40 ซม. เส้นรอบวงลำตัว 40 ซม. ใช้โลหะเงินชนิด 92.5 เปอร์เซ็นต์ มาขึ้นโครงสร้างหลักทั้งส่วนหัว
เกล็ดปลาจำนวน 990 เกล็ด ครีบหลัง ครีบหาง ครีบใต้ท้อง ตลอดจนโครงสร้างของลำตัวที่ถักทอเป็นตาข่ายเงิน ใช้โลหะเงินหนักถึง 2.6 กก. จากนั้นก็เริ่มประดับพลอยบุษราคัมลงบนเกล็ดปลาทั้ง 990 เกล็ด โดยใช้บุษราคัมขนาด 4.0-10 มม. แบบกลมเหลี่ยมเพชรจำนวนกว่า 100,000 เม็ดมาคัดไซส์และสี จนเหลือเพียง 37,999 เม็ด รวม 5,499 กะรัต เพื่อใช้ประดับลงบนเกล็ดและลำตัวของปลาคาร์พมงคล
“ปลาคาร์พตัวนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ เพราะต้องใช้ความพยายามและความอุตสาหะอย่างสูงของช่างไทย เนื่องจากต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการไล่สีและขนาดของบุษราคัมประกอบเกล็ดปลาซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไปในแต่ละส่วน ก่อนจะนำชิ้นส่วนทั้งหมดไปชุบทองไมครอนหนา 5 ไมครอน โดยเริ่มต้นทำงานชิ้นนี้ช่วงเดือน ก.ย. 50 เพิ่งจะมาเสร็จสมบูรณ์เมื่อต้นเดือน ธ.ค.นี้ รวมระยะเวลาการประดิษฐ์ผลงานถึง 1 ปี 3 เดือน มีน้ำหนักรวมแล้วกว่า 5 กก. โดยตัวปลาคาร์พมงคลจะมีสีเหลืองอร่าม ตั้งวางอยู่บนฐานทำจากเงินชุบทองไมครอน ซึ่งสีเหลืองทองนี้เป็นสีมงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยเป็นสีประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นสีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่ง เป็นผลงานที่ผลิตขึ้นเพียงชิ้นเดียวในโลก จุดเด่นสำคัญอีกแห่งคือตาของปลาคาร์พมงคลจะประดับด้วย “ทับทิมสยาม” อัญมณีเลื่องชื่อของไทย ราคาที่ตั้งไว้ในขณะนี้คือ 3 ล้านบาท” นางสุภาพรสรุป
ด้านนายภูเก็ต คุณประภากรณ์ ประธานคณะกรรมการจัดงานกล่าวเสริมว่า นอกจาก “อัญมณีแห่งสายน้ำ ปลาคาร์พมงคล” แล้ว ภายในงานยังนำผลงานชิ้นเด่นๆมาจัดแสดง
เช่น “ทับทิมสยามหนัก 18 กะรัต” ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท สร้อยสังวาลสาย ประดับพลอยเขียวแสงส่อง ซึ่งเป็นพลอยใต้ดินจันท์แท้ “มาลัยจันทบูร” มาลัยสีทองตลอดทั้งสายใช้บุษราคัมและเพชรกว่า 127 กะรัต และ “มณีบุศรา” ที่ใช้พลอยบุษราคัมมารังสรรค์เป็นเครื่องประดับสุดล้ำค่า ซึ่งทุกท่านจะหาชมได้จากภายในงานนี้เท่านั้น