นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมฯได้รับผลกระทบจากการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ของพันธมิตรฯ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ขาดรายได้จากการเก็บภาษีศุลกากรหลายร้อยล้านบาท รวมถึงความเดือดร้อนจากการ ขนถ่ายสินค้า พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าต่าง ๆ ด้วยเพราะเกรงว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีอาศัยจังหวะนี้แอบลักลอบขนถ่ายสินค้าหนีภาษี หรือสินค้าผิดกฎหมายด้วย
“กรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้โดย สารและผู้ประกอบการนำเข้า ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าทางการเกษตรที่เน่าเสียได้ง่าย ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แม้ว่าบริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ทอท.) จะได้แก้ปัญหาด้วยการให้ขนถ่ายสินค้า และผู้โดยสารที่สนามบินอู่ตะเภาแทน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนบางส่วนก็ตาม แต่ขณะนี้เมื่อ สถานการณ์คลี่คลายแล้ว กรมฯ จึงได้จัดเจ้า หน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานที่สำนักงานตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามปกติแล้ว”
นายอุทิศกล่าวว่าหลังจากที่กรมศุล กากรได้เร่งรัดปราบปรามสินค้าหนีภาษีศุลกากร ยาเสพติดให้โทษ สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา และสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคมและ สิ่งแวดล้อม เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี รวมทั้งปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอดและตั้งแต่เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา กรมฯ จับกุมแผ่นดีวีดีภาพยนตร์ต่างประเทศได้ 45,000 แผ่น มูลค่า 45 ล้านบาท และยาสูบมูลค่า 1.45 ล้านบาท.