เพิ่ม รับปี 52 ตัวเลขตกงาน พุ่งนับล้านแน่ ลั่นเปลี่ยนรัฐบาลไม่กระทบนโยบาย ย้ำต้องทำให้เข้มขึ้น เพื่อรองรับ ซูเปอร์วิกฤติเศรษฐกิจ ชี้สถานการณ์ล่าสุด เลิกจ้างงานแล้ว 4.4 หมื่นคน จ่อตกงานอีก 8.3 หมื่นคน ด้านลูกจ้างองค์การค้าคุรุสภา ประท้วงเดือด หลังองค์การฯเบี้ยวจ่ายเงินเดือน ขณะที่ผอ.องค์การยอมรับ จ่ายเงินช้า เพราะขาดทุนสะสมกว่า 2 พันล้าน วอนรัฐบาลแก้ปัญหา
เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่กระทรวงแรงงาน นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการ รมว.แรงงาน กล่าวว่า สถานการณ์การเลิกจ้างในขณะนี้น่าเป็นห่วงมาก โดยอาจมีตัวเลขคนตกงานนับล้านคนตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ในปีหน้าเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามเหมือนโดมิโนล้มเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสถานการณ์ทางการเมืองในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น การยึดสนามบินของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ส่งผลกระทบต่อ สถานประกอบการจำนวนมาก อาจเร่งทำให้คนตกงานเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในธุรกิจการท่องเที่ยวและภาคการส่งออก
ทั้งนี้รวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ซึ่งถ้าสายป่านไม่ยาวพอได้รับผลกระทบจนต้องปิดกิจการในที่สุด อย่างไรก็ตามรัฐบาลขณะนี้ไม่ได้นิ่งนอนใจ ในภาพรวมก็ทำอยู่ ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะนำนโยบายในการแก้ปัญหาวิกฤติการเลิกจ้างที่เตรียมไว้มาปรับให้เข้มข้นมากขึ้นเพื่อรองรับปัญหา โดยเฉพาะงบประมาณ 1.5 พันล้านบาท ที่กำลังขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติการเลิกจ้าง และคาดว่าจะได้รับในเร็ว ๆ นี้
โดยจะต้องนำมาใช้ให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคเอกชน เพื่อบรรเทาปัญหาให้ได้มากที่สุด ขณะที่ข้าราชการจะต้องทำงานในเชิงรุกให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากมีการเปลี่ยนตัว รมว.แรงงาน หลังมีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เชื่อว่าจะไม่กระทบกับแผนงานที่วางไว้ สำหรับสถานการณ์เลิกจ้างล่าสุด มีสถานประกอบการปิดกิจการเพิ่มขึ้นเป็น 519 แห่ง ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง 44,794 คน และยังมีสถานประกอบการที่มีแนวโน้มจะถูกเลิกจ้างอีก 2,000 แห่ง ลูกจ้าง 83,721 คน
“ถึงแม้ว่ากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอีกครั้ง แต่ทุกคนก็เอาใจใส่ปัญหาคนตกงาน ว่างงานเป็นพิเศษ เราเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเราขอไปแล้ว 1.5 พันล้านบาทซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าได้หรือไม่ได้ แต่คิดว่าคงได้ในไม่ช้านี้ ซึ่งหากได้รับมาแล้วเราจะต้องดูแลให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด ไม่ใช่เอามาถลุงกันเล่นแน่นอน ในส่วนของนโยบายนั้น คงไม่ปรับเปลี่ยนแน่นอนแต่คงต้องทำให้เข้มขึ้น เพื่อรองรับซูเปอร์วิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ จะให้ทุกคนทำงานกันแบบไม่กะพริบตา ยอมรับว่าตอนนี้ภาระของกระทรวงแรงงานหนักแต่ทุกคนพร้อมที่จะทำงาน” นางอุไรวรรณ กล่าว
ด้าน นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า จากข้อมูลของ กสร.พบว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิส่งผลให้โรงงานใน จ.สมุทรปราการ ที่มีอยู่กว่า 18,000 แห่ง ต่างได้รับผลกระทบ แต่ที่หนักสุด คือโรงงานส่งออกที่มีจำนวนไม่น้อยเตรียมปิดกิจการเนื่องจากขาดรายได้และอาจต้องเลิกจ้างคนงานตามมา เช่น โรงงานผลิตเสื้อผ้าส่งไปประเทศจีน ผลิตชิ้นส่วนวงจร อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงผู้ประกอบการกล้วยไม้ด้วย นอกจากนี้พนักงานของบริษัทคิงเพาเวอร์และบริษัทอื่นที่ทำธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 10,000 คน ก็อาจได้รับผลกระทบถูกเลิกจ้างตามมา ในช่วงที่บริษัทขาดรายได้และไม่มีทุนทรัพย์ฟื้นฟูธุรกิจที่เพียงพอ
ที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู และบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) พนักงาน สกสค. หรือ องค์การค้าคุรุสภาเดิมกว่า 100 คน รวมตัวประท้วงที่บริเวณโรงพิมพ์องค์การค้า สกสค. ถนนลาดพร้าว หลังต้นสังกัดไม่จ่ายเงินเดือนพนักงานตามที่นัดหมายโดยนายอนันต์ นุชเทศ ประธานสหภาพแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานจำนวน 1,975 คน กำลังได้รับความเดือดร้อนหนัก เนื่องจากไม่ได้รับเงินเดือนอีกครึ่งเดือนตามที่สกสค.นัดหมายจ่ายในวันนี้ (4 ธ.ค.) หลังจากเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมาได้จ่ายเงินเดือนให้พนักงานเพียงครึ่งเดียว ทำให้พนักงานรวมตัวประท้วงเรียกร้องให้ผู้บริหารชี้แจงเหตุผลในการจ่ายเงินเดือนล่าช้า และให้สอบสวนความจริงเพื่อหาผู้รับผิดชอบ พร้อมกำหนดวันที่แน่นอนในการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงาน
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พนักงานยังเรียกร้องเงินค่าชดเชยเนื่องจากคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความไว้ชัดเจนว่า พนักงานขององค์การค้า สกสค. ถือเป็นหน่วยงานหนึ่งของส่วนราชการ แต่กลับไม่ได้รับการอุดหนุนงบประมาณเหมือนหน่วยงานอื่น ขณะที่พนักงานขององค์การค้า สกสค.ไม่ได้รับโบนัส มาเป็นเวลา 5 ปีทั้งที่พนักงานของ สกสค.โดยตรง ได้รับโบนัสปีละ 2 เดือน อย่างไรก็ตามจากการที่สหภาพได้เจรจากับผู้บริหารได้ข้อสรุปว่าจะนัดหมายจ่ายเงินให้พนัก งานอีกครั้งในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ซึ่งในสัปดาห์หน้า สหภาพแรงงานฯ จะมีการนัดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อกำหนดท่าที หากพนักงานยังไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือนรวมถึงการเรียกร้องความเป็นธรรมในสวัสดิการอื่น ๆ ด้วย
ด้าน นายบำเรอ ภานุวงศ์ ผอ.องค์การค้า สกสค.กล่าวว่า ยอมรับขณะนี้การดำเนินงานของ องค์การค้าของ สกสค.กำลังประสบปัญหา มีหนี้สินจากการขาดทุนสะสม ตั้งแต่ปี 2543 มากถึงกว่า 2,000 ล้านบาท จากการที่องค์การฯ ไม่สามารถแข่งขันทางธุรกิจกับเอกชนได้ เนื่องจากอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งให้นโยบายในการตรึงราคาตำราเรียนไว้นานกว่า 10 ปี ขณะที่องค์การฯ กลับไม่ได้รับงบประมาณ หรือเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลแต่อย่างใด ทำให้เกิดการขาดทุน และขาดสภาพคล่องทางการเงิน จนไม่สามารถหาเงินมาจ่ายเงินเดือนให้พนักงานได้ทัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลต้องรีบหาทางแก้ไขหรือจัดเงินช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่ จ.ขอนแก่น วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีกลุ่มพนักงาน บริษัทศรีบ้านไผ่ จำกัด ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ ซึ่งเป็นบริษัทที่รับซื้อไม้ยูคาลิปตัสในเครือ บริษัท ดับเบิลเอ จำกัด จำนวน 56 คน นำโดย นายธวัชชัย นามเชียงใต้ ผู้จัดการฝ่ายการจัดซื้อไม้ยูคาลิปตัส สาขา อ.กระนวน รวมตัวกันประท้วงที่หน้าบริษัทฯ หลังจากทาง บริษัทฯ มีนโยบายลดเงินเดือนพนักงาน 50% และให้พักงานเป็นเวลานาน 3 เดือนโดยไม่มี ค่าตอบแทน ขณะที่ นายภานุวัฒน์ หงส์ทอง ผู้บริหาร บริษัทฯ กล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้นเป็นนโยบายของทางบริษัทแม่ที่แจ้งมา จึงจำเป็นต้องทำตามคำสั่ง แต่กรณีเรื่องสวัสดิการต่าง ๆ นั้น ทางบริษัทฯ จะหารือกันอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป และจะมีการนัดประชุมชี้แจงให้พนักงานทราบอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้.