ช่วงที่อุณหภูมิการเมืองร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ กลุ่มนักธุรกิจก็เดือดร้อนใจไม่แพ้กัน ได้แต่ภาวนาขอให้เหตุการณ์บ้านเมืองสงบเพื่อจะได้พลิกฟื้นต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยทั้งในและนอกประเทศ
ตัวเลขของคนตกงานพุ่งทะยานไม่หยุด โรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลง รายได้ของประเทศที่มาจากนักท่องเที่ยวก็ลดลงเพราะหวาดกลัวต่อสถาณการณ์การเมืองที่กำลังครุกรุ่น วุ่นวาย จนถึงขนาดปิดสนามบิน ซึ่งนานาชาติหวั่นเกรงเหตุการณ์จะบานปลายถึงขนาดสั่งประชากรงดเที่ยวไทย
ถนนทุกสายพุ่งเป้าไปที่ปัญหาการเมืองจับตามองว่าจะจบลงเมื่อใด
ขณะที่อีกซีกหนึ่งของชาวบ้านประชาชนคนธรรมดาที่ไม่มีเวลาไปสนใจเหตุบ้านการเมือง "สวมเสื้อไม่เลือกสี" หาเช้ากินค่ำอย่างพ่อค้าแม่ค้าที่ "ถนนข้าวสาร" ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวจนกลายเป็นแหล่งรองรับหลักของนักท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ
ภาพของนักท่องเที่ยวที่เดินกันขวักไขว่ตลอดทั้งวันทั้งคืนกลายเป็นอดีตไปแล้วเพราะขณะนี้ ถนนข้าวสารเงียบเหงา ผู้คนบางตา แม้จะเป็นช่วง ไฮซีซั่น ที่ปกติจะเต็มถนน แต่ปีนี้ถนนข้าวสารกลับเงียบมาก
เสียงดนตรีตามผับบาร์ที่เคยดังสนั่นกึกก้องบรรยากาศคึกคักมีผู้คนเฮฮา สร้างความสนุกสนานไปกับเสียงเพลง วันนี้เสียงดนตรีไม่ได้เงียบไปพร้อมกับนักท่องเที่ยวยังคงมีอยู่แต่เป็นเสียงที่ใช้เรียกแขกมากกว่า นายวิชัย แกนนาคำ อายุ 37 ปี อาชีพ ขายเสื้อผ้า ได้เผยถึงสภาพเศรษฐกิจของถนนข้าวสารว่าตอนนี้ถนนข้าวสารกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจเพราะนักท่องเที่ยวลดลง ช่วงนี้ขายของไม่ค่อยดี แต่ก่อนเคยขายได้วันละ4,000-5,000 บาท แต่ตอนนี้ได้เกือบไม่ถึงพันบาทก็มี เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจ ซึ่งปกติเดือนนี้ฝรั่งจะเยอะมากแต่ถ้าเทียบกับปีที่แล้วน้อยกว่าเยอะ
ด้านนายมนตรี เอกเจริญเวสน์ อายุ 48 ปี อาชีพ ขับรถ ตุ๊ก ตุ๊ก คอยรับส่งนักท่องเที่ยวย่านข้าวสาร ให้ความเห็นว่าตอนนี้เงียบมากๆไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยว
ปัญหาน่าจะมาจากปัญหาการเมือง นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้ามาเที่ยวทำให้รายได้ลดลงมาก เพราะยังหวั่นกับเหตุการณ์รุนแรง "ผมอยากให้เลิกชุมนุมกันได้แล้วนักท่องเที่ยวจะได้กล้ามาเที่ยว นอกจากเศรษฐกิจจะแย่แล้วการเมืองยังแย่อีก อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเข้ามาแก้ไขโดยเร็ว" นายมนตรีร้องขอ
ขณะที่นาง รวีวรรณ แสวงผล อายุ 34 ปี เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้า ร้านน้อยชวา เล่าว่า ช่วงนี้เงียบมากๆ ซึ่งน่าจะเป็นด้วยหลายสาเหตุอย่างเช่นปัญหาเศรษฐกิจ
การเมืองก็มีส่วนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวกันมาก เพราะอีกอย่างหนึ่งคือ ช่วงนี้ใกล้ช่วงเทศกาลคริสต์มาส นักท่องเที่ยวจะกลับบ้านกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงก่อนหน้านี้ ที่เป็นการประกาศ พระราชกฤษฎีกาการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็จะเงียบจริงๆ ประมาณสามเดือน ส่วนธุรกิจให้เช่าห้องพัก นายอภิชัย คนรู้ อายุ 25 ปี พนักงานต้อนรับประจำเกสต์เฮาส์ Belle Bella House กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วง ไฮซีซั่น นักท่องเที่ยวจะบางตามาก ซึ่งสาเหตุคิดว่า น่าจะเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจโลกที่ย่ำแย่ แต่ถ้าช่วงนี้คือ พ.ย.-ต้นธ.ค.ปกติแขกจะเยอะอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เงียบมาก ถ้าเทียบกับปีที่แล้วปริมาณนักท่องเที่ยวลดลง อาจเป็นเพราะว่านักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่นในการที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย และที่สำคัญนักท่องเที่ยวมีกำลังจ่ายลดลง
"ถ้าเทียบกับช่วงปฏิวัติ นักท่องเที่ยวจะลดลงมากโดยเฉพาะชาวตะวันตกค่อนข้างที่จะกังวล นับตั้งแต่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่างชาติจะให้ความสำคัญมาก นักท่องเที่ยวไม่กล้าที่จะเข้ามาเที่ยวเพราะขาดความมั่นใจ เรื่องการเมือง และภาวะเศรษฐกิจ"
กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าทำได้เพียงแต่ตั้งตารอคอยลูกค้าต่างชาติเดินหวนกลับมาเยี่ยมถนนข้าวสารให้ฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง