วันเดียวกัน นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวถึงการเตรียม เปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิว่า
หลังชุดตรวจสอบวัตถุระเบิดดำเนินการ ที่เริ่มมาตั้งแต่เย็นวานนี้ (2 ธ.ค.) เรียบร้อย หลังจากนั้น จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคตรวจสอบระบบต่างๆ เช่น สายพาน ซีทีเอ็กซ์ เคาน์เตอร์และไอที ถ้าพบว่า อะไรผิดปกติก็รีบซ่อม ส่วนถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็จะทดลองระบบทั้งหมด
ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวต่อว่า
เมื่อทดสอบแต่ละระบบเสร็จแล้วจะทดลองระบบร่วมกันทั้งหมด ให้สามารถปฏิบัติงานร่วมกันได้ เพราะระบบที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็นระบบไอที การทำงานต้องดูให้สามารถเชื่อมระบบได้ เปิดให้บริการแล้วไม่เกิดความเสียหาย หลังจากนั้น เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ทอท. ตรวจพร้อมให้บริการแล้วจะต้องเชิญกรมการขนส่งทางอากาศ ผู้แทนของสายการบิน สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) และผู้เกี่ยวข้องมาตรวจสอบระบบอีกครั้งว่า มีระบบความปลอดภัย พร้อมให้บริการจึงเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้
นายเสรีรัตน์ กล่าวถึงการเปิดเช็คอินที่ไบเทค และไปขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่า
ทำได้ โดยเป็นสิ่งที่จะรีบทำก่อน โดยเช็คอินที่ไบเทคและกระจายผู้โดยสาร กรณีที่เครื่องบินอยู่สุวรรณภูมิก็จะนำผู้โดยสารขึ้นเครื่องโดยตรงไม่ต้องผ่านอาคารผู้โดยสาร ซึ่งวิธีนี้ จะเร็วที่สุด “วันนี้ เดี๋ยวตน และได้ประสานกับอธิบดีกรมการขนส่งทางอาการเพื่อไปตรวจระบบดังกล่าว ที่ถ้าทำได้จะทำเลย กับผู้โดยสารขาออกนอกประเทศ ส่วนกรณีที่ตรวจสอบระบบเป็นส่วนๆ แล้วตัวอาคารผู้โดยสารสามารถให้บริการได้ ก็จะขอร้องสายการบินที่จะเช็คอินที่สุวรรณภูมิอาจจะต้องใช้ระบบแมนนวลหรือ ใช้คนทำไปก่อน หรือ กึ่งๆ ก็เร็วขึ้น แต่ช้ากว่าวิธี” ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าว
สำหรับผู้โดยสารขาเข้า นายเสรีรัตน์ กล่าวว่า
เราสามารถทำให้เร็วได้ โดยให้เครื่องบินบินลงและพาผู้โดยสารไปที่พูลเซ็นเตอร์ของการบินไทย ที่จุดนั้น มีทั้งตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรที่จะทำให้ขั้นตอนต่างๆ เร็วขึ้น และได้ประสานงานการบินไทยไว้แล้วสำหรับสายการบินที่ต้องการลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยทั้งหมดจะทำให้ผู้โดยสารทั้งขาออกและขาเข้าได้เร็วขึ้นนอกเหนือจากปัจจุบันมีสนามบินอู่ตะเภาช่องทางเดียว