สุราษฎร์ธานี-สงขลาเร่งอพยพผู้คน เฝ้าระวังโคลนถล่ม

เมื่อกลางดึกวานนี้ (23 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งอพยพประชาชนอย่างต่อเนื่อง

หลังเกิดเหตุน้ำป่าและดินถล่มใน อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นผู้ประสบภัยน้ำป่าดินถล่มในพื้นที่บ้านทับบริษัท บ้านคลองมุย บ้านคลองชุน ชุมชนบ้านบ่อน้ำร้อน หมู่ที่ 13 และและชุมชนบ้านซอยมดคัน หมู่ที่ 9 บ้านบางเมาะ
นายประเสริฐ จิตมุ่ง นายอำเภอวิภาวดีสรุปสถานการณ์ว่า ขณะนี้ได้อพยพประชาชนออกมาพักอาศัยอยู่ที่ศาลาศิลปาชีพพระราชทาน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และโรงเรียนบ้านท่านหญิง จำนวน 74 ครัวเรือน กว่า 300  คน และยังมีผู้ที่ยังติดอยู่ในที่เกิดเหตุอีกกว่า 100 คน ทางการได้ระดมทีมกู้ภัยพร้อมทีมออฟโร๊ดจากจังหวัดใกล้เคียงกว่า 200 นาย เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยตลอดคืนนี้ แต่การเข้าพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากคอสะพานขาดและดินถล่มปิดเส้นทาง

นอกจากนี้ ทางอำเภอได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ศูนย์ศิลปาชีพบ้านท่านหญิง ส่วนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้จัดส่งผ้าห่ม จำนวน 300 ผืน
สรุปความเสียหายล่าสุดมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 9 อำเภอ 37 ตำบล 250 หมู่บ้าน 11,221 ครัวเรือน ราษฎรเดือดร้อน 27,875 คน มีผู้เสียชีวิต 2 คน และสูญหาย 1 คน

ส่วนที่ จ.สงขลา  เจ้าหน้าที่จัดเวรยามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยและดินโคลนถล่มอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง


เนื่องจากยังมีฝนตกกระจายในพื้นที่ ประกอบกับน้ำในคลองธรรมชาติและคลองสาขายังคงอยู่ในระดับสูง โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกยังคงเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยของ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน

ขณะที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา ซึ่งรับผิดชอบใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สรุปพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยในช่วง 2 วันที่ผ่านมา
จ.สงขลา มีพื้นที่ประสบภัยรวม 7 อำเภอ ยะลามีพื้นที่ประสบภัย 1 อำเภอ และ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ประสบภัยใน 2 อำเภอ ส่วนความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์