เศรษฐกิจโลกยังมีสัญญาณที่น่าเป็นห่วงหลายอย่างเมื่อตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันต่ำกว่าบาร์เรลละ 50 ดอลลาร์สหรัฐ สวิตเซอร์แลนด์ลดดอกเบี้ยมากเกินคาด การส่งออกของญี่ปุ่นอ่อนตัว ตุรกีและไอซ์แลนด์เข้าโครงการช่วยเหลือของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
ดัชนีหลักทรัพย์สำคัญของสหรัฐลดลงถ้วนหน้าเพราะนักลงทุนเทขายหนีความเสี่ยง
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลงร้อยละ 6.71 ไปปิดที่ 752.44 จุด ต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี
ดัชนีดาวโจนส์ลดลงร้อยละ 5.6 ไปปิดที่ 7,552.29 จุด
ดัชนีแนสแด็กลดลงร้อยละ 5 ไปปิดที่ 1,316.12 จุด
และดัชนีหลักทรัพย์ทั่วโลกลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง
ด้านธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินคาดถึงร้อยละ 1 เป็นการลดลงครั้งที่ 3 ในรอบ 6 สัปดาห์
ขณะที่นักวิเคราะห์มั่นใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยสำคัญลงร้อยละ 1 ในการประชุมกลางเดือนหน้า เพราะตลาดงานซบเซา จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเมื่อสัปดาห์ก่อนสูงถึง 4 ล้านคน มากที่สุดในรอบ 16 ปี
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเศรษฐกิจโลกอ่อนตัวจากการที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐงวดส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลงต่ำกว่าบาร์เรลละ 50 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง โดยลงไปแตะที่ 48.50 ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนที่ญี่ปุ่นการส่งออกไปยังเอเชียเมื่อเดือน ต.ค.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี บ่งชี้ว่า
วิกฤติสินเชื่อได้แผ่ไปถึงเพื่อนบ้านแล้ว เช่น จีน ขณะเดียวกันไอเอ็มเอฟได้อนุมัติเงินกู้ช่วยเหลือไอซ์แลนด์มูลค่า 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 73,500 ล้านบาท) อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือมูลค่า 10,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 357,000 ล้านบาท)
ขณะที่แหล่งข่าวในตุรกีเผยว่า ไอเอ็มเอฟพร้อมอนุมัติความช่วยเหลือ 20,000-40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 700,000 ล้านบาท-1.4 ล้านล้านบาท)