มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ติดตามการปรับราคาน้ำมันของผู้ค้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพราะค่าการตลาดน้ำมันสูงมาก โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน 95 ที่สูงถึง 7-8 บาทต่อลิตร ซึ่งบริษัทน้ำมันควรปรับลดราคาได้มากกว่านี้ ส่วนกรณีที่อ้างว่าหากปรับลดราคาหลายครั้งในรอบสัปดาห์ จะกระทบกับธุรกิจปั๊มน้ำมันนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ โดยรัฐบาลไม่มีนโยบายไปบังคับผู้ค้าน้ำมันได้ แต่จะให้ ปตท.และบางจาก นำร่องปรับลดราคาขายปลีกแทน
นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า
วันที่ 21 พ.ย. จะเชิญผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 เพื่อขอความร่วมมือในการปรับลดราคาน้ำมัน
นายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันในไทยมี 10,000 แห่ง โดย 4,000 แห่งเป็นสถานีบริการมาตรฐาน และอีกกว่า 6,000 แห่งเป็นสถานีน้ำมัน ขนาดเล็ก ซึ่งราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างรวดเร็วจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค แต่หากประกาศปรับลดราคาขายปลีกทุกวันก็จะกระทบต่อสถานีบริการรายเล็กที่จะขาดทุนสต๊อกทันที และไม่กล้าที่จะเข้ามาซื้อน้ำมันไปจำหน่าย อาจจะเกิดปัญหาขาดแคลนน้ำมันในบางสถานี
นายศัลยา สุคนธทรัพย์ ผู้จัดการฝ่ายราคา การตลาดขายปลีก บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า
เชลล์มีการช่วยเหลือผู้ค้าน้ำมันรายย่อย (ดีลเลอร์) อยู่แล้ว แต่จะพิจารณาเป็นกรณีไป อย่างช่วงที่ผู้ค้าน้ำมันรายย่อยซื้อน้ำมันมาในราคาแพงแล้วพรุ่งนี้ราคาน้ำมันปรับลดลง ก็จะมีการคืนส่วนต่างราคาหน้าตั๋วให้บางส่วน แต่อาจจะไม่คืนเงินให้เต็ม 100% เพราะเชลล์เองก็ขาดทุนสต๊อกน้ำมันหนักเหมือนกัน.