แฉตร.ฝึกกู้ระเบิดใต้ไร้งบฯ-อยู่กินอนาถา

อนาถา -ตำรวจจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เข้ามาฝึกอบรมทำลายวัตถุระเบิด ที่กองพลาธิการและสรรพาวุธ กทม.

ต้องอาศัยพื้นที่ข้างห้องอบรมเป็นที่พัก และต้องรับผิดชอบตัวเองเรื่องกินอยู่ตลอดการอบรมนานหลายเดือน


แฉตร.ชุดกู้ระเบิดต้องใช้ชีวิตอนาถาในกรุง บุกสำรวจทีมตำรวจ 59 นายที่เข้าอบรมหลักสูตรนักทำลายวัตถุระเบิด ถึงผงะต้องใช้ชีวิตกันอย่างอนาถา ยึดห้องเรียนกองพลาธิการเป็นที่ซุกหัวนอน มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบ ข้าวปลาก็ต้องหาซื้อกินเอง ตลอดเวลาอบรม 4 เดือน เผยเป็นทีมที่ต้องเข้าไปทำงานเสี่ยงชีวิตใน 3 จว.ใต้ เดิมสตช.มีงบให้ 1.2 ล้าน แต่ชุดนี้กลับให้งบได้แค่ 4 แสน เครื่องแบบ ชุดสนาม อุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องซื้อหาเอาเอง เบี้ยเลี้ยงก็ไม่ได้ แถมเงินพิเศษเดือนละ 3 พัน ก็โดนตัด ทั้งที่ต้องทำงานเสี่ยงชีวิต


เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์การก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยคนร้ายลอบวางระเบิดอย่างรุนแรงต่อเนื่อง รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการต่อต้านและเก็บกู้วัตถุระเบิดอย่างมาก โดยสั่งการให้แต่ละเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจัดการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่หลักสูตรนักทำลายวัตถุระเบิด หรือเรียกย่อๆ ว่า หลักสูตร EOD เป็นเจ้าหน้าที่กลุ่มแรกที่ต้องเข้าไปเคลียร์พื้นที่และเก็บกู้ระเบิดที่คนร้ายลอบวางไว้ ซึ่งเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายมาก

ดังนั้น บุคลากรเหล่านี้ต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น ใช้เวลานานและใช้งบประมาณสูง เพราะต้องเรียนรู้เรื่องวัตถุระเบิดแบบต่างๆ เรียนรู้วงจรจุดชนวนทั้งแบบโบราณจนถึงไฮเทครุ่นใหม่อย่างเชี่ยวชาญรู้จริง เพราะเป็นงานที่เสี่ยงอันตรายที่สุด ในส่วนของการฝึกอบรมของเหล่าทัพต่างๆ เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแต่ละเหล่าทัพคัดบุคลากรที่จะเข้าฝึกและอบรมในหน่วยพลาธิการของเหล่าทัพนั้นๆ จนถึงเดือนก.ค. จากนั้นจะไปฝึกภาคสนามร่วมกันกับเหล่าทัพอื่นๆ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จ.เพชรบุรี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่าตำรวจในรุ่นนี้จำนวน 59 นายต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างอนาถา

เนื่องจากต้องอาศัยห้องเรียนของกองพลาธิการและสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นที่พัก เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีงบประมาณเรื่องที่พัก ซึ่งตำรวจทั้งหมด 59 นายนอนเบียดเสียดกันอยู่ในห้องเรียนตลอดระยะเวลาอบรม 4 เดือนเศษ มีเพียงเสื่อผืนหมอนใบเท่านั้น นอกจากนี้ เรื่องอาหารการกินก็ต้องซื้อหาเอาเอง ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้จัดไว้ให้

จากการสอบสวนตำรวจนายหนึ่งทราบว่า กองพลาธิการและสรรพาวุธทำหนังสือเสนอของบประมาณสนับสนุนการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่นักทำลายวัตถุระเบิดรุ่นที่ 4 จำนวน 59 นาย โดยแต่ละกองบัญชาการส่งตำรวจเข้าฝึกอบรมภาคละ 4 นาย ตั้งงบประมาณไว้ 1 ล้านบาท ลดลงจากรุ่นที่ 3 ที่ใช้งบประมาณอบรม 1.2 ล้านบาท แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่าไม่มีงบประมาณ สามารถจ่ายให้ได้เพียง 4 แสนบาท เพราะเงินเอาไปใช้อย่างอื่นหมด

ตำรวจคนดังกล่าวกล่าวว่า ดังนั้น ตำรวจที่มาฝึกอบรมแต่ละนายจะไม่ได้เบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่ายในการมาฝึกอบรม อีกทั้งการอบรมครั้งนี้มีระยะเวลานานกว่า 4 เดือน ตามระเบียบการอบรมหลักสูตรอะไรก็ตามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่นานกว่า 2 เดือน เงินพิเศษปราบปราม, สืบสวนที่ปกติได้เดือนละ 3,000 บาทต่อคน ก็ต้องถูกตัดออกไปด้วย และเมื่อมาถึงกองพลาธิการสถานที่อบรม ตำรวจที่มาจากจังหวัดไกลๆ ไม่ว่าจะเป็นปัตตานี นราธิวาส หรืออีสาน ที่ไม่มีญาติพี่น้องในกรุงเทพฯ ก็ต้องหาที่นอนกันเอง โดยกองพลาธิการอนุญาตให้กางมุ้งนอนข้างห้องเรียนได้


ส่วนอาหาร 3 มื้อก็ต้องหากินกันเอง ชุดเครื่องแบบทั้งชุดฝึก ชุดพรางสนามต้องซื้อกันเอง

รวมถึงอุปกรณ์คลิปเตอร์(ตัวจับเชื้อปะทุ) ที่เป็นอุปกรณ์สำคัญในการประกอบระเบิดราคาเกือบ 2 พันบาท นักเรียนรุ่นนี้ต้องซื้อเอง ส่วนเงินงบประมาณ 4 แสนบาทที่ได้มาแค่ใช้เป็นค่าระเบิด, ค่าเบี้ยเลี้ยงครูผู้เชี่ยวชาญ, ค่าน้ำมันเดินทางไปฝึกภาคสนามก็หมดแล้ว เฉลี่ยแล้วนักเรียนนักทำลายวัตถุระเบิดต้องจ่ายเงินเรียนกันเองคนละไม่ต่ำกว่า 6 พันบาท สำหรับตำรวจชั้นผู้น้อยถือว่าเป็นเงินจำนวนสูงมาก

ตำรวจคนดังกล่าวกล่าวด้วยว่า เมื่อไม่มีงบประมาณ นักเรียนนักทำลายวัตถุระเบิดของตำรวจต้องดิ้นรนกันเอง โดยทำหนังสือไปขอความอนุเคราะห์ผู้มีจิตศรัทธา ให้ความช่วยเหลืองบประมาณนำมาฝึกอบรม เพราะนักเรียนทุกคนตระหนักว่าหลักสูตรนี้มีความสำคัญมาก ต้องเรียนรู้ให้แตกฉานเชี่ยวชาญเพื่อนำไปปฏิบัติภารกิจที่เสี่ยงกับอันตรายถึงกับชีวิตทั้งตนเองและประชาชนผู้บริสุทธิ์





แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์