"อ้างถูกมอมยา แบล็คเมล์"
จากเรื่องฉาวโฉ่วงการศาสนา กรณี นางตา (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี เข้าร้องเรียนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวหาพระครูพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี มีพฤติกรรมเสพเมถุน หลังแอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับนางตา โดยมีการนำภาพคลิปวีดิโอโทรศัพท์มือถือที่ พระครูพิศาลศาสนกิจ นอนให้นางตาเอาแป้งทาทั่วตัว ภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา โดยนางตาได้ใช้ โทรศัพท์มือถือรุ่นถ่ายภาพได้บันทึกเอาไว้ และยังนำสมุดบัญชีเงินฝากที่มีชื่อหลวงพ่อกับนางตาเป็นเจ้าของบัญชีร่วมกัน ส่วนสาเหตุที่นำเรื่องบัดสีมาเปิดโปงก็เพราะถูกเจ้าอาวาสนอกใจไปมีสัมพันธ์กับหญิงอื่น ขณะที่พระครูพิศาลศาสนกิจก็ได้เข้าแจ้งความตำรวจอ้างถูกมอมยาแบล็กเมล์รีดเอาเงิน 1 ล้านบาทนั้น
เมื่อวานนี้ (29 มิ.ย.) พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวถึงกรณีคลิปวีดิโอฉาวของพระครูพิศาลศาสนกิจกับนางตาว่า ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมในระยะเวลาใกล้เคียงกันถึงเกิดเหตุด้านลบเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์อยู่ตลอด ซึ่งน่าจะเกิดมาจากความย่อหย่อนทางพระธรรมวินัยของพระสงฆ์บางรูป จะต้องให้เจ้าคณะผู้ปกครองคอยดูแลและสอดส่องอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกัน เรื่องการสมาคมกับญาติโยม โดยเฉพาะผู้หญิง พระสงฆ์ ควรระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากยังมีผู้ที่ไม่หวังดีต่อวงการสงฆ์ มีการวางแผนเพื่อต้องการสึกพระบางรูปก็มีอยู่มาก ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พระครูพิศาลศาสนกิจเอง ก็ไม่ รักษาพระธรรมวินัย เพราะพระธรรมวินัยระบุไว้ว่าการอยู่กับสีกาสองต่อสองไม่ควรอยู่ในที่ลับตาคน
เหตุการณ์ของพระครูพิศาลศาสนกิจ สงสัยว่าทำไมท่านไม่ละอายต่อบาป เพราะการที่ท่านเป็นถึงรองเจ้าคณะอำเภอ ต้องเป็นพระที่มีวุฒิภาวะเพราะเป็นตำแหน่งพระสังฆาธิการระดับผู้บริหาร แต่กลับกระทำเสพเมถุน แม้จะอ้างว่าที่ทำลงไปเพราะถูกมอมยาไม่ได้สติ แต่ด้วยสามัญสำนึกควรทราบว่าการเดินทางไปที่รีสอร์ตกับสีกาเพียงลำพัง 2 คน เป็นเรื่องไม่บังควรและมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันใกล้ชิดจนถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งได้ ดังนั้นจึงมีความผิดตามพระธรรมวินัยขั้นร้ายแรง ต้องอาบัติปาราชิก ลาสิกขา ขาดจากความเป็นพระในทันที พระธรรมกิตติเมธีกล่าว