เฮติประสบปัญหาความอดอยากยากไร้อย่างรุนแรง ถึงขั้นที่ว่าผู้หญิงเฮติหลายคน ต้องจำใจให้อาหารแก่ลูกบางคน แล้วปล่อยให้ลูกที่เหลือเสียชีวิตไปเอง เนื่องจากอาหารมีไม่พอ
ข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก นางแพทริเซีย วอลฟฟ์ ผู้อำนวยการบริหารขององค์กรไม่แสวงหากำไร Meds & Food for Kids ซึ่งได้เดินทางไปเฮติเมื่อไม่นานมานี้ แล้วต้องพบกับประสบการณ์อันชวนขมขื่นของผู้หญิงหลายคน ที่ไม่สามารถตั้งชื่อลูกเพิ่งเกิดได้ในทันที เพราะไม่แน่ใจว่า ทารกน้อยจะรอดชีวิต เนื่องจากเด็กแรกเกิดในเฮติมักเสียชีวิตในเวลาไม่นานนักจากภาวะทุพโภชนา
ส่วนเด็ก ๆ ที่รอดชีวิตมาได้ ก็ต้องทนกินอาหารอย่างจำกัด เพราะอาหารมีน้อยเกินกว่าจะแบ่งให้พี่น้องทุกคนได้กินอย่างอิ่มท้อง และถ้าอาหารที่มีอยู่ไม่พอแบ่งจริง ๆ ผู้หญิงเฮติก็ต้องจำใจเลือกว่า จะให้อาหารแก่ลูกคนไหน แล้วปล่อยให้ลูกที่ไม่ได้อาหารอดตายกันไปเอง
ความอดอยากหิวโหยเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกต้องเร่งแก้ไข แต่ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่า ปัญหาดังกล่าวมีแต่จะทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้น ในปีนี้ ยังเกิดเหตุจลาจลแย่งชิงอาหารในหลายประเทศ เช่น อียิปต์ และอินเดีย แม้กระทั่งโรงอาหารหลายแห่งในสหรัฐก็ยังเตือนว่า อาหารที่มีอยู่กำลังจะหมดลงแล้ว เพราะความต้องการอาหารมีเพิ่มขึ้นมากอย่างไม่คาดคิดมาก่อน
ข้อมูลจากโครงการอาหารโลกยังระบุว่า ทุก ๆ 6 วินาที จะมีเด็กเสียชีวิตจากความหิวโหยไป 1 คน ตัวเลขผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ มาลาเรีย และวัณโรค ในแต่ละปี ถ้านำมารวมกัน ยังน้อยกว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากความอดอยากหิวโหยเสียอีก
นักวิเคราะห์บางคนมองว่า ปัญหาความอดอยากหิวโหยไม่ได้เกิดจากอาหารบนโลกมีไม่พอ แต่เกิดจากการแบ่งสรรอาหารอย่างไม่เป็นธรรม
นอกจากนี้ พฤติกรรมการกินอาหารของคนอเมริกัน ที่มักเน้นบริโภคสเต็ก หรือ แฮมเบอร์เกอร์ เป็นหลัก ก็ส่งผลให้หลายประเทศเลียนแบบ โดยหันมากินเนื้อสัตว์ให้มากขึ้น ทำให้โลกต้องเสียธัญพืชและทรัพยากรอื่นไปกับการเลี้ยงสัตว์มากเกินความจำเป็น
ดังนั้น ถ้าลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ก็จะมีธัญพืชและทรัพยากรอื่นเหลือพอที่จะนำไปให้ประเทศที่อดอยากขาดแคลน