เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (28 มิ.ย.) นางตา (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี
อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว กับญาติ เดินทางไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ถนนพุทธมณฑลสาย 4 อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อร้องเรียนพฤติกรรมพระครูพิศาลศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์สามัคคี รองเจ้าคณะอำเภอเมืองสุพรรณบุรี เสพเมถุน
โดยมีภาพถ่ายคลิปวีดิโอจากโทรศัพท์มือถือ เป็นภาพพระรูปดังกล่าวนุ่งสบงผืนเดียวนอนอยู่บนเตียง มีนางตาสวมกางเกงขาสั้น กับเสื้อยกทรงสีดำ นั่งคร่อมทับร่างลูบคลำ ก่อนจะถอดสบงออกแล้วใช้แป้งทาตัวพระฉาวจนทั่วทั้งร่าง พร้อมสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาสวนแตง มีชื่อนางตาร่วมกับพระครูพิศาลศาสนกิจ เป็นเจ้าของบัญชี เป็นหลักฐาน
จากนั้นนายวิชัย ธรรมเจริญ นักวิชาการศาสนา 7 ว. รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน และสอบปากคำนางตาต่อหน้าพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระ ซึ่งนางตาได้เปิดปากแฉสัมพันธ์ฉาวว่า เมื่อราวปีเศษๆ ตนกับเพื่อนไปทำบุญบวชสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดราษฎร์สามัคคี
ระหว่างนั้นพระครูพิศาลศาสนกิจได้ประกาศว่าจะพาคณะสามเณรที่บวชไปทัศนศึกษาที่ จ.ชลบุรี จึงถวายเงินให้วัดอีก 3,000 บาท เพื่อสมทบทุนค่าเดินทาง เจ้าอาวาสได้เรียกตนกับเพื่อนไปพบที่กุฏิ เพื่อมอบพระบูชาตอบแทนที่ร่วมทำบุญ พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์มือถือของตน อ้างว่าจะเอาไว้ใช้ติดต่อให้ช่วยทำบุญในงานกฐินต่อไป
นางตาให้ปากคำอีกว่า ต่อมาทราบว่ามีผู้หญิงที่เคยมีสัมพันธ์กับพระครูพิศาลศาสนกิจหวนกลับมาติดต่อกับพระฉาวอีก ทำให้ตนโมโหต่อว่าพระครูกับหญิงคนดังกล่าวไป พร้อมขอให้พระครูพิศาลศาสนกิจ เปลี่ยนชื่อเจ้าของบัญชีเงินฝากเป็นชื่อตนคนเดียว พระครูพิศาลศาสนกิจ ก็ยอมเปลี่ยนให้ แต่ยังเก็บสมุดบัญชีเงินฝากไว้ โดยไม่ได้นำเงินไปใช้อะไร ที่ผ่านมาพระครูพิศาลศาสนกิจจะให้เงินตนเพียง 3-4,000 บาท ไปซื้อเสื้อผ้าใส่เท่านั้น
ต่อมาตนทราบว่าพระครูพิศาลศาสนกิจยังคบหากับหญิงคนดังกล่าว มีการพาไปปิดทองทำบุญที่วัดป่าเลไลยก์ จึงตามไปอาละวาดให้ทั้งคู่เลิกคบกัน ซึ่งพระครูพิศาลศาสนกิจรับปากจะตัดสัมพันธ์กับหญิงคนดังกล่าว หลังจากนั้นตนกับพระครูพิศาลศาสนกิจ ก็เริ่มมีปากเสียงกันเรื่อยมา แต่ยังมีสัมพันธ์ทางเพศกันอยู่ทั้งในวัดและนอกวัดตามแต่โอกาสจะอำนวย