"ครูยุ่น"โดดขวางพิธีพิสดารทำบุญขอขมาวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้ง
ชี้ห่วงวัยรุ่นจะเห็นทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดา ทำแล้วก็มาทำพิธีแก้บาปได้ ตั้งข้อสงสัยเป็นกิจของสงฆ์-ขัดความเชื่อทางพุทธหรือไม่ เรียกร้องหน่วยงานรับผิดชอบห้ามปรามด่วน ติง "หมอลักษณ์ ฟันธง" เจ้าของไอเดียด้วย เป็นคนดังทำอะไรคนก็เชื่อตาม ทางด้าน "หมอลักษณ์"โต้วุ่นทำเพื่อความสบายใจของผู้ร่วมพิธีเท่านั้น ย้ำด้วยคนบาปกรรมที่ทำไปแล้วแก้ไม่ได้ ส่วนเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณฯ ชี้ไม่เป็นการมอมเมา ตัวเองไม่ส่งเสริมแต่ไม่คัดค้าน
จากกรณีวัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จะจัดพิธีทำบุญสะเดาะเคราะห์ ขออโหสิกรรมแก่ดวงวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้งทั่วราชอาณาจักร ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย.นี้ พร้อมอุทิศส่วนกุศลให้กับกุมารทอง ตามข่าวที่ปรากฏไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 11 พ.ย. นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และอดีตส.ว.สมุทรสงคราม หรือครูยุ่น กล่าวถึงกรณีวัดแค จ.สุพรรณบุรี จัดพิธีขอขมาวิญญาณเด็กที่ถูกทำแท้ง เพื่อแก้กรรมให้กลุ่มวัยรุ่นและหญิงสาวที่เคยทำแท้งว่า คนที่ไปไม่ได้รับทราบว่า กรรมแก้หรือทุเลาไม่ได้ การทำแท้งเป็นเรื่องผิดศีลธรรมและกฎหมาย การให้วัดหรือพระเข้าไปอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับหมู่คนที่ไปทำแท้งหรือคนที่คิดจะไปทำแท้ง ว่าล้างหรือทุเลาบาปได้หากทำบุญให้เด็ก ทำให้คนแห่มาทำพิธีกันมากมาย มุมหนึ่งที่วัยรุ่นหรือคนในพื้นที่และคนที่เห็นภาพข่าวเรื่องนี้ จะเกิดความคิดว่าการทำพิธีขอขมา ทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดา สามารถทำพิธีกรรมเพื่อแก้บาปได้ก็จะไปกันใหญ่ ทั้งที่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เป็นเรื่องของความเชื่อไม่ใช่เรื่องเหตุผล วัดมีส่วนทำให้เกิดความเชื่อที่ขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่ จะกลายเป็นลูกโซ่ของความงมงาย
"เรื่องนี้มีผลต่อความเชื่อของคนมาก มิฉะนั้นจะไม่แห่ไปกัน สิ่งที่ต้องถามกลับคือ เป็นกิจของวัดหรือของสงฆ์หรือไม่ เป็นพระก็ต้องให้ปัญญา คนที่ไปทำพิธีมีกี่คนที่ได้ปัญญา นอกจากความเชื่อ จุดเริ่มต้นพิธีเกิดจากอาจารย์ลักษณ์ เรขานิเทศ หรือ "หมอลักษณ์ ฟันธง" ที่เป็นผู้อุปถัมภ์วัดบอกว่า การทำแบบนี้จะช่วยเป็นกำลังให้กุมารทอง ผมสงสัยว่าเพราะอาจารย์ลักษณ์เป็นหมอดูชื่อดัง ไม่กล้าทำเอง และไม่ได้ศึกษาเรื่องบาปบุญที่แท้จริง ทางวัดเลยเอาไอเดียมาดัดแปลง เหมือนได้ประเด็นใหม่ แต่แรงจูงใจการทำเพื่ออะไร ต้องการบอกว่าการทำพิธีล้างบาปได้ หรือเพื่อเงิน 99 บาท ที่คนทำพิธีนำมาถวาย เป็นการหาเงินเข้าวัดหรือไม่" ครู ยุ่นกล่าว
นายมนตรี กล่าวว่า หลวงพ่อท่านน่าจะเทศน์ให้อาจารย์ลักษณ์หรือญาติโยมฟังแต่แรก เรื่องความเชื่อพุทธศาสนามากกว่าจะมาทำพิธี
ไม่รู้ว่าเป็นอุบายที่เป็นกุศลในการหาเงินเข้าวัดหรือไม่ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของพระ ที่ต้องเป็นผู้ให้ปัญญากับคนในสังคม ตนอยากถามว่าการทำพิธีดังกล่าวเหมาะสมแค่ไหน สังคมวันนี้เด็กซึมซับความรุนแรงตั้งแต่บนถนนไปจนถึงในรัฐสภา เรื่องไสยศาสตร์เด็กก็ซึมซับหมดว่าล้างบาปที่ตัวเองทำได้ เป็นการซึมซับความรุนแรงโดยอ้อม อาจารย์ลักษณ์หรือหลวงพ่อ หากจะคิดทำกันส่วนตัวก็ไม่ควรนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ติดป้ายให้คนมาร่วมกันขนาดนี้ เพราะสังคมไทย พระเป็นผู้นำความเชื่อ เด็กอายุน้อยๆ ติดตามผู้ปกครองไปด้วยจะซึมซับอะไร เป็นการต่อลูกโซ่ความงมงาย ทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องปกติธรรมดา คนไม่เคยทำก็ซึมซับทัศนะความเชื่อไปด้วย
"ผมไม่รู้ว่าอาจารย์ลักษณ์สนับสนุนพิธีดังกล่าวแค่ไหน หากบอกว่าทำแล้วดีเชื่ออย่างนี้ ผมก็อยากถามว่าเหมาะสมหรือไม่ หมอลักษณ์เป็นหมอฟันธงมีชื่อเสียง ผลที่ตามมาคือคนก็เชื่อตาม ความเชื่อเป็นเรื่องของสิทธิ แต่ไม่ควรมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ ไม่ใช่หลักศาสนาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเณรแอ ย่างเด็กก็มีมาแล้ว มาวันนี้วัดมาทำพิธีทำบุญกุมาร หากปล่อยไปสังคมก็ไปกันใหญ่ หน่วยงานที่รับผิดชอบต้องเข้าไปตรวจสอบทั้งประเทศ วัดนี้ทำครั้งแรกยังไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบ แต่ที่จะทำปลายเดือนพ.ย.นี้ ขอให้หน่วยงานรับผิดชอบเข้าไปดูแลห้ามปรามโดยด่วน" ครูยุ่นกล่าว และว่า เรื่องบาปบุญไม่มีทางล้างหรือบรรเทา วัยรุ่นไม่ไปทำแท้งจะดีกว่า
ส่วนนายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ กล่าวว่า การทำบุญขอขมาดังกล่าวอาจทำให้รู้สึกดีขึ้น จนไม่เกิดความรู้สึกผิด แต่ไม่ควรปล่อยให้ทำไปอย่างนี้
เรื่องนี้เกิดในสุพรรณบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ต้องเข้าไปดูแลผู้เข้าไปร่วมพิธีแต่ละรายว่า มีปัจจัยสาเหตุเสี่ยงการทำแท้งอย่างไร และเข้าไปช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาเพื่อจัดระบบการป้องกันการทำแท้ง มิฉะนั้นการทำบุญแบบนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ทำให้คนได้คิดหรือรู้สึกไม่รับผิดชอบต่อความผิด ไม่ควรปล่อยให้มีพิธีการเช่นนี้ เพราะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใด ต้องทำให้เจ้าตัวรู้สึกถึงการแก้ปัญหา เพราะพระหรือวัดไม่มีความรู้ความเข้าใจ ไม่ได้ทำงานในเชิงป้องกันปัญหา จะส่งผลให้วัยรุ่นหรือคนที่ทำแท้งแล้วคิดว่าล้างบาปได้ก็มาทำกันแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกผิดบาปที่แท้จริง อยากให้วัดทบทวนการทำพิธีดังกล่าวและหาทางออกการแก้ปัญหาที่แท้จริง
ครูยุ่นโวยวัด! พิธีขมาเด็กแท้ง
ด้านนายลักษณ์ เรขานิเทศ หมอดูฟันธงชื่อดัง ในฐานะอุบาสกผู้อุปถัมภ์วัดแค กล่าวถึงการจัดพิธีสะเดาะเคราะห์ ขอขมา และขออโหสิกรรมดวงวิญญาณเด็ก ที่เสียชีวิตจากการถูกทำแท้งหรืออุบัติเหตุว่า
เริ่มจากเมื่อครั้งที่สถาบันพยากรณ์ศาสตร์ของตน ได้จัดทัวร์ไหว้พระตามวัดดังในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเป็นประจำทุกปี ครั้งหนึ่งได้พากลุ่มทัวร์ไปไหว้พระที่วัดแค จ.สุพรรณบุรี ซึ่งวัดแห่งนี้ตามตำนานเป็นวัดที่ขุนแผนได้มาร่ำเรียนวิชากับอาจารย์คง ตนได้กราบนมัสการพระครูปลัดธรรมวงศานุวัตร เจ้าอาวาสวัดแค ซึ่งท่านเป็นพระนักพัฒนา ได้ทำให้วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ ท่านปรึกษากับตนว่าที่วัดแห่งนี้ มีรูปหล่อขุนแผนและกุมารทอง โดยทางวัดต้องการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กุมารทอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่วัดมาแต่โบราณ ตนจึงได้เสนอให้มีการประกอบพิธีกรรมเชิญดวงวิญญาณเด็กที่เสียชีวิตจากการแท้ง รวมทั้งจัดหล่อเทวรูปกุมารทองคำขึ้นมาใหม่ โดยทางวัดต้องจัดงานทำบุญขอขมา ขออโหสิกรรมดวงวิญญาณ และงานพิธีเชิญดวงวิญญาณเด็กที่แท้งลูกเองตามธรรมชาติและคลอดก่อนกำหนด รวมทั้งหญิงสาวที่เจตนาทำแท้งด้วยความไม่พร้อม
เมื่อถามว่า การจัดพิธีกรรมดังกล่าว อาจทำให้เป็นการส่งเสริมให้วัยรุ่นทำแท้ง และใช้การทำบุญอุทิศส่วนกุศล เพื่อเป็นการลบล้างบาปกรรม
นายลักษณ์ กล่าวว่า ขอยืนยันการจัดพิธีกรรมนี้ ตามที่เจ้าอาวาสวัดแคได้ปรารภว่า มีเจตนาเพื่อต้องการให้ผู้ที่เข้ามาทำบุญรู้สึกสบายใจเท่านั้น ซึ่งบาปกรรมที่เกิดจากฆ่าชีวิตผู้เป็นลูกหรือผู้อื่น ไม่สามารถลบล้างได้ นอกจากนี้ หากเรามองตามความเชื่อตามคติของคนไทย เด็กที่เตรียมจะเกิด แล้วถูกทำแท้งหรือตายผิดธรรมชาติ ดวงวิญญาณจะไม่ไปสู่สุคติ ต้องวนเวียนอยู่ในภพนี้ จนกว่าถึงวาระได้ไปผุดไปเกิด อาจเป็นด้วยความแค้นที่ไม่ใช่ความผิดของเด็ก แต่เขาต้องมาตายด้วยการทำแท้ง เพราะการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบิดามารดา การจัดพิธีทำบุญดังกล่าว นอกจากช่วยทำให้คนที่เป็นบิดามารดาที่ได้กระทำได้สำนึกถึงความผิด ให้เกิดความสบายใจ ส่วนดวงวิญญาณของทารก เมื่อได้รับรู้ถึงผลบุญ ก็จะได้อโหสิกรรม ได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีต่อไป
"ผมขอยืนยันว่าเราไม่ได้มีเจตนาไปส่งเสริมให้เด็กวัยรุ่นไปกระทำผิด ตั้งท้องก่อนวัยอันควร แล้วให้ไปทำแท้ง แต่เราอยากให้ลองคิดถึงคนที่ได้กระทำผิดไป ให้เขาได้สำนึกผิด ทำบุญขอขมา จะได้เกิดความสบายใจ แม้ในความเป็นจริงตามหลักพระพุทธศาสนา บาปกรรมที่เราได้ทำไปแล้ว จะไม่มีวันลบล้างไปได้ ต้องไปชดใช้กรรม แต่ที่เราทำเพียงเพื่อให้คนเกิดความสบายใจเท่านั้น ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจ มิใช่ว่าเราจะให้ทุกคนไปงมงาย ไปตัดกรรมแต่อย่างใด ส่วนการทำบุญสะเดาะเคราะห์ และขออโหสิกรรมดวงวิญญาณเด็กที่เสียชีวิต ในระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. จะมีพิธีบังสุกุลและประชุมเพลิงรายชื่อของเด็กที่เสียชีวิตจากการแท้งหรืออุบัติเหตุทั่วไป โดยผู้ที่ต้องการร่วมพิธีต้องเขียนชื่อและนามสกุลของตน รวมทั้งต้องเขียนชื่อของลูกชายและลูกหญิงที่เสียชีวิตใส่ในกระดาษ แต่หากใครไม่กล้ามา จะฝากให้ญาติพี่น้องนำรายชื่อมาก็ได้ อีกทั้งผู้ที่ได้ร่วมทำบุญภายในงานนี้ ยังจะได้รับวัตถุมงคลรูปกุมารทอง เนื้อนวโลหะ มีจำนวนเพียง 5,000 องค์เท่านั้น" หมอลักษณ์กล่าว
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณวัดแค มีหนุ่มสาวเดินทางเข้ามาที่วัดเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน โดยมาถามพระเกี่ยวกับเรื่องพิธีขมาอโหสิกรรมดังกล่าว
ซึ่งหญิงสาวบางคนเดินเข้ามาขอกระดาษที่ทางวัดพิมพ์ข้อความอโหสิกรรมไปเขียนเอง และจะมาร่วมงานในภายหลัง พระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า สำหรับเรื่องการทำบุญนั้นไม่ว่าเป็นรูปแบบใดถือว่าไม่ผิด เป็นเรื่องที่ดี แล้วแต่ความเชื่อความศรัทธาของประชาชน ไม่ถือเป็นการมอมเมาประชาชนแต่อย่างใด เรื่องนี้ก็เป็นการคิดถึงคนตายที่อาจไม่มีคนคิดมาก่อน อาตมาเองไม่ส่งเสริมแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน