ปตท.รายงานพร้อมลงทุน 3 แสน ล.

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุม ครม.ให้เรียกหัวหน้าส่วนราชการทุกแห่งมาร่วมประชุมในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อเร่งรัดให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างและการลงทุนจากภาครัฐ เพราะเป็นห่วงว่าภาวะเศรษฐกิจช่วงนี้ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุน ฉะนั้น การลงทุนจากภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานสถานการณ์เบิกจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2549 ให้ ครม.ทราบว่ามีวงเงินลงทุนคงเหลือเบิกจ่าย 133,144 ล้านบาท จากปัจจุบันรัฐวิสาหกิจได้รับอนุมัติการเบิกจ่ายลงทุนในปี 2549 ทั้งสิ้น 264,459 ล้านบาท พร้อมประมาณการเบิกจ่ายลงทุนเบื้องต้นปี 2550 ของรัฐวิสาหกิจ 54 แห่ง ด้วยว่ามีความต้องการเบิกจ่ายลงทุนเบื้องต้นทั้งสิ้น 406,501 ล้านบาท

ของรัฐวิสาหกิจที่ สศช.เสนอครั้งนี้ เพื่อให้ ครม.ทราบว่ากระบวนการพิจารณาและใช้ งบประมาณของรัฐวิสาหกิจ เมื่อผ่านการพิจารณาของ สศช. และ ครม.แล้วสามารถนำเงินออกมาใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านรัฐสภา ดังนั้นในปี 2550 ประเทศไทยยังคงมีการลงทุนของรัฐวิสาหกิจอยู่ในโครงการเก่า ส่วนโครงการใหม่ๆ ขึ้นอยู่กับว่า ครม.จะกล้าอนุมัติหรือไม่

ได้ เรียกประชุมผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง เพื่อหารือเรื่องแผนการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ และเบิกจ่ายงบลงทุนให้เร็วขึ้นกว่าปกติ ซึ่งในส่วนของบริษัท ปตท.ได้เตรียมสรุปแผนการลงทุนระหว่างปี 2549-2550 เสนอต่อที่ประชุมครั้งนี้ประกอบด้วย โครงการลงทุนของ ปตท.และบริษัทในเครือทั้งองค์กร มีงบลงทุนรวม 160,000 ล้านบาท โดยใน 6 เดือนแรกของปี 2549 (ม.ค.-มิ.ย.) ได้ใช้เงินลงทุนไปแล้ว 60,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้ (ก.ค.-ธ.ค.) จะลงทุนอีก 100,000 ล้านบาท โดยไม่มีการชะลอการลงทุนแต่อย่างใด ส่วนการลงทุนในปี 2550 จะใช้เงินลงทุนรวม 140,000 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจในเครือ รวม 2 ปี ใช้งบลงทุน 300,000 ล้านบาท.


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ