นายสันติกล่าวว่า
จากการประชุมประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ให้สภาอุตสาหกรรมจังหวัดแต่ละจังหวัด รวบรวมข้อมูลว่าแต่ละพื้นที่มีปัญหาการเลิกจ้างมากน้อยเพียงใด คาดจะได้ข้อมูลสมบูรณ์ภายในสิ้นเดือนนี้ ข้อมูลดังกล่าวจะนำไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ส.อ.ท.จะนำปัญหาการเลิกจ้างเข้าไปหารือเพื่อหาทางแก้ปัญหา โดยปี 2552 จะมีนักศึกษาจบใหม่อีกหลายแสนคนที่จะหางานได้ลำบากกว่าปีนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยปีนี้มาชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ คาดว่าปี 2552 เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวทั้งปี
ด้าน ดร.อำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า
แม้เศรษฐกิจปี 2552 จะเติบโตที่ระดับ 3-4% แต่จะไม่ทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มเป็น 1 ล้านคนหรือมากกว่านั้น แต่คาดว่าจำนวนผู้ว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีผู้ว่างงาน 3-4 แสนคน ปีหน้าคงไม่เกิน 5-6 แสนคน คาดว่าอัตราการว่างงานปี 2552 อยู่ที่ 2% จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3-1.5%
“ในแต่ละปีมีคนเข้าสู่วัยแรงงาน 2.5-3 แสนคน มีผู้ที่เกษียณอายุปีละ 1-1.2 แสนคน จากสถิติช่วงปี 2542-2543 ที่จีดีพีขยายตัวที่ต่ำกว่า 2-3% ไทยกลับมีอัตราว่างงานที่ 3.6% อัตราการว่างงานที่ระดับ 3.6% ตามหลักวิชาการเรียกว่าการว่างงานตามธรรมชาติ" ดร.อำพนกล่าว
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งทั่วประเทศรับมือปัญหาลูกจ้างถูกเลิกจ้าง โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน นางอุไรวรรณ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงปัญหาการเลิกจ้างว่า
ยังสามารถรับมือได้ ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ของบประมาณกลางจากรัฐบาลในวงเงิน 1,536 ล้านบาท นำมาสมทบในกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างจำนวน 270 ล้านบาท ช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างให้ได้รับค่าชดเชยในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 60 วัน นอกจากนี้ งบประมาณส่วนหนึ่งก็นำมาใช้ในโครงการจัดจ้างบัณฑิตอาสา และให้เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รับทราบปัญหาในพื้นที่ เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาในเชิงรุก
นางอัมพร นิติสิริ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า
ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สวัสดิการ จ.พระนครศรีอยุธยา สำรวจสถานประกอบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนิคมอุตสาหกรรม 5 แห่ง รวมถึงจังหวัดที่มีอุตสาหกรรมหนาแน่น เช่น สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี นครปฐม ระยอง ลำปาง ลำพูน สุราษฎร์ธานี เพื่อป้องกันปัญหาเลิกจ้างอย่างเข้มข้น
ส่วนสถานการณ์การเลิกจ้างขณะนี้เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 8 แห่ง เป็น 133 แห่ง ลูกจ้าง 15,056 คน โดยมีแนวโน้มจะเลิกจ้างอีก 55 แห่ง ลูกจ้าง 24,906 คน และมีสถานประกอบการที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ 7 แห่ง ลูกจ้างเกี่ยวข้อง 2,922 คน ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ เครื่องแต่งกาย อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ตามลำดับ
วันเดียวกัน คณะกรรมการบริหารองค์การแรงงานแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
สภาองค์การลูกจ้าง 7 แห่ง และสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือต่อนางอุไรวรรณ เพื่อขอให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณส่วนกลางไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จัดตั้งกองทุนเพื่อป้องกัน แก้ไข ช่วยเหลือภาคแรงงาน เนื่องจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างที่มีอยู่นั้น ไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือ ทั้งนี้ นางอุไรวรรณรับปากว่าจะนำเสนอเข้า ครม.ในวันที่ 11 พฤศจิกายน
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday