พ่อเฒ่า72วิวาห์เจ้าสาว74

ความรักรุ่นปู่ พ่อเฒ่าวัย 72 จูงแม่เฒ่าวัย 74 เข้าวิวาห์ เผยฝ่ายเจ้าบ่าวเคยแต่งงานมาแล้ว โดยมีลูก 5 คน แต่เมียตาย ส่วนฝ่ายหญิงยังไม่เคยแต่งงาน มีลูกบุญธรรมขอมาเลี้ยง 2 คน เปิดใจหวานคบหากันมานาน 1 ปี เพราะมีบ้านใกล้กันแค่ 20 เมตร ก่อนตกลงปลงใจร่วมชีวิต เพราะจะได้เป็นเพื่อนกันยามบั้นปลาย

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครพนม รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ว่า มีคู่บ่าวสาวอายุกว่า 70 ปี พากันจูงแขนกันเข้าพิธีแต่งงาน

ท่ามกลางความฮือฮาของชาวบ้านทั้งตำบล จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 9 บ้านหนองปลาดุก หมู่ 20 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น พบแขกเหรื่อชายหญิงประมาณ 100 คน มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่รักวัยดึก บ้านดังกล่าวเป็นของ น.ส.บุญ มาลาศรี อายุ 74 ปี เจ้าสาว อยู่ในชุดไทยสีโอลด์โรส ห่มผ้าสไบสีขาวพาดไหล่ ขณะที่เจ้าบ่าวคือนายหวี ชินคำ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 บ้านหนองปลาดุก ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเจ้าสาวไม่ถึง 20 เมตร มีเพียงบ้านอีกหลังกั้นกลางเท่านั้น สวมเสื้อสีเหลืองและสวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำทับ มีผ้าขาวม้าพาดบ่า โดยมีญาติๆ ทั้งคู่และเพื่อนบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้เฒ่าผู้แก่อายุระหว่าง 60-80 ร่วมพิธีทำบุญเลี้ยงพระเช้าตามประเพณีอีสาน

ต่อมาเวลา 07.30 น. หลังพระสงฆ์ 3 รูปประกอบพิธีทางศาสนาเสร็จ เพื่อนบ้านที่มาร่วมงานพากันดึงเจ้าสาวมาอยู่ใกล้เจ้าบ่าว

โดยน.ส.บุญมีท่าทีเขินอายจนหน้าแดงก่ำ จากนั้นนายหวีเจ้าบ่าวล้วงกระเป๋าเงินหยิบห่อผ้าเช็ดหน้า ภายในมีเงินค่าสินสอด 10,000 บาท มาให้เพื่อนบ้านตรวจนับเป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 10 ใบ ก่อนที่ชาวบ้านจะพากันมารุมล้อม เพื่อสู่ขวัญผูกข้อต่อแขน ระหว่างนั้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้ผลัดเปลี่ยนหอมแก้มกันคนละ 2-3 ครั้ง ท่ามกลางความแสดงยินดีและเสียงโห่ร้องของกองเชียร์ผู้สูงวัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้น นางลี เหล่าหงส์ วัย 72 ปี น้องสาวของเจ้าสาว เดินทางมาจาก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี มาร่วมงานแต่งพี่สาว

หยิบไข่ต้มและข้าวเหนียวป้อนใส่ปากคู่บ่าวสาว และนำธนบัตรฉบับละ 20 บาท ใส่ปากเจ้าบ่าวและให้เจ้าสาวมาคาบเอา เพื่อแสดงความรักและต้องการให้ทั้งคู่จูบปากกัน เรียกเสียงฮือฮาให้กับเพื่อนบ้านดังลั่น นายหวี กล่าวก่อนได้ฤกษ์เข้าเรือนหอว่า ตนเคยมีภรรยาตั้งแต่อายุ 26 ปี จนมีลูกด้วยกัน 5 คน เป็นชาย 3 คนหญิง 2 คน ซึ่งต่างมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว หลังจากที่นางบัว อุนาศรี ภรรยา เสียชีวิตด้วยโรคเบาหวานในวัย 70 ปีเมื่อปีที่แล้ว ก็ไปมาหาสู่กับน.ส.บุญ ซึ่งอาศัยอยู่บ้านคนเดียว หลังคบหาดูใจกันนาน 1 ปี จึงบอกรักและขอแต่งงานในช่วงเทศกาลออกพรรษา ลูกๆ ของตนและลูกๆ ฝ่ายเจ้าสาวก็ไม่ว่าอะไร เห็นดีเห็นงามและต้องการให้ดูแลความรักกันยามแก่ยามเฒ่า

น.ส.บุญ เจ้าสาววัย 74 ปี กล่าวว่า ยังไม่เคยมีสามีและแต่งงานมาก่อน แต่ได้รับบุตรบุญธรรมไว้เลี้ยงดู 2 คน

คนโตเป็นหญิงชื่อนางบุญเลี้ยง มาลาศรี อายุ 40 ปี และคนเล็กเป็นชายคือนายบุญธรรม มาลาศรี อายุ 21 ปี แต่มีเฉพาะลูกคนโตที่มาร่วมงาน ลูกๆ ก็ไม่ว่าอะไร เห็นแม่แต่งงานก็ดีใจ เพราะจะได้มีคนดูแลยามป่วยไข้ ซึ่งเจ้าบ่าวมาบอกรักก่อนสู่ขอ จึงบอกไปว่าต้องนำเงิน 10,000 บาท มาเป็นค่าสินสอดถึงจะยอมแต่งด้วย ไม่นึกว่าเจ้าบ่าวจะมาขอแต่งจริงๆ

นางหนม ชินคำ อายุ 36 ปี ลูกสาวนายหวีคนที่ 3 กล่าวว่า ตกค่ำจะเห็นพ่อไปมาหาสู่กับน.ส.บุญ เพื่อกินข้าวเย็นทุกวัน สามถึงสี่ทุ่มถึงจะกลับเข้าบ้าน

พ่อมาบอกว่าจะแต่งงานเพื่อมีเพื่อนไว้คุยแก้เหงา แต่ตนไม่มีเงิน จึงไปหยิบยืมเพื่อนบ้านมา 10,000 บาท เพื่อเป็นค่าสินสอด ตั้งใจว่าขายข้าวเสร็จถึงจะเอาไปใช้คืนโดยไม่เสียดอกเบี้ย ด้านนางบุญเลี้ยง ลูกสาวบุญธรรมของน.ส.บุญ กล่าวว่า แม่โทรศัพท์ให้มาร่วมงานทำบุญบ้าน แต่ไม่บอกว่าจะแต่งงาน และไม่เคยรู้ระแคะระคายมาก่อนว่าแม่มีแฟน ก่อนนั่งรถส่วนตัวมาจาก อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี พร้อมสามีและญาติๆ เดินทางมาเห็นแม่มีคนดูแลยามแก่ก็ดีใจและหมดห่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในงานมีการล้มวัว 1 ตัว ราคา 5,000 บาท ซึ่งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวพากันออกเงินกันคนละครึ่ง

มาประกอบอาหารเป็นลาบ ก้อย ต้ม เลี้ยงแขกเหรื่อเพื่อนบ้านที่มาแสดงความยินดี ส่วนเงินค่าสินสอดและค่าใส่ซอง นับรวมกันได้เงิน 12,910 บาท ซึ่งเจ้าสาวระบุว่าจะเก็บไว้เป็นทุนซ่อมแซมบ้าน ซึ่งจะใช้เป็นเรือนหออยู่กินกับสามีคนแรกวัย 72 ปีต่อไป