สบายๆ สไตล์สีกากี : พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน บิ๊กตำรวจ…หัวใจฮาร์เลย์


"บรื้นๆๆๆ...” เสียงทุ้มนุ่มกังวานก้องจากท่อไอเสียราชาแห่งท้องถนน ฮาร์เลย์ เดวิดสัน รุ่นโรดคิงส์ ปี 2008 สีน้ำเงินดำมันวาว ลายเปลวเพลิงสีเทา ทะเบียน ลลล 919 กรุงเทพมหานคร ของ "พ.ต.อ.ทักษิณ พ่วงเงิน"


รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (รอง ผบก.น.9) เคลื่อนตัวเข้ามาลานจอดรถร้าน Harley Country Jammer ร้านจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ย่านโชคชัย 4


 พ.ต.อ.ทักษิณ สวมเสื้อยืดสีดำ ยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน กางเกงยีนสีน้ำเงินเข้ม ก้าวลงจากรถคู่ใจ แวะทักทายเจ้าของร้านและประธานชมรมอิมมอร์ทอล ไทยแลนด์คนล่าสุด หลังจาก "พิมล ศรีวิกรม์" บุกเบิกชมรมนี้เมื่อ 30 ปีก่อน และคงความเป็นอมตะมาจนถึงทุกวันนี้


สบายๆ สไตล์สีกากีฉบับนี้ จะพาไปพบกับนายตำรวจหัวใจฮาร์เลย์ (HD) พ.ต.อ.ทักษิณ ทุกครั้งที่ว่างเว้นจากภารกิจหน้าที่การงานจะควบม้าศึกสีน้ำเงินดำคันงามมาพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงในชมรมอิมมอร์ทอล ตลอดจนอัพเดทข้อมูลความเคลื่อนไหวต่างๆ บางครั้งก็นำรถมาปรับแต่งทำความสะอาด ฯลฯ หากเวลาและโอกาสอำนวยก็จะชวนกันไปขี่รถกินลมชมบรรยากาศแถบชานเมืองตามประสาคนที่มีใจรักในสิ่งเดียวกัน


 ความทรงจำเก่าๆ เกี่ยวกับความประทับใจและชื่นชอบรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ เริ่มต้นตั้งแต่สมัยยังเป็น ด.ช.ทักษิณ วิ่งเล่นอยู่แถว สน.สำราญราษฎร์ และมีโอกาสได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์นำขบวนเสด็จผ่านมาอยู่เสมอ


"รถฮาร์เลย์นี่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เริ่มแรกมีโอกาสเห็นมอเตอร์ไซค์ของตำรวจสันติบาลนำขบวนเสด็จผ่านสะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน หน้าศาลาเฉลิมไทย เวลารอรับเสด็จก็จะเห็นอยู่เสมอ รูปทรงรถมันสวยดี เมื่อเทียบกับทรวดทรงสัดส่วนของรถ เห็นแล้วก็ชอบ" พ.ต.อ.ทักษิณ เล่าถึงความประทับใจแรกที่มีให้แก่รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลอเมริกัน


ตั้งแต่วันนั้นมา ด.ช.ทักษิณ ก็เทใจให้ฮาร์เลย์หมดใจ แต่กว่าจะได้ครอบครองก็ใช้เวลานานนับสิบปี ระหว่างนี้ก็เริ่มเล่นรถบิ๊กไบค์ เริ่มจาก ฮอนด้า ทีทีอาร์ 400 ซีซี ฮอนด้า แม็กน่า ปี 88-89 จากนั้นก็เริ่มศึกษาความเป็นมาของรถฮาร์เลย์แต่ละรุ่น เปิดแค็ตตาล็อกนั่งเลือกนอนเลือกอยู่นานเป็นเดือนกว่าจะตัดสินใจเลือกรุ่นเฮอร์ริเทจ ซอฟเทล คลาสสิก ปี 90 โดยให้เพื่อนๆ สาวกฮาร์เลย์ช่วยดูและจัดหารถให้ตามสเปกที่ต้องการ


 พ.ต.อ.ทักษิณ ได้ฮาร์เลย์สมใจ เป็นรถมือสองจากญี่ปุ่น ราคาไม่แพงมากนัก เขาบอกว่ายุคนั้นค่าเงินบาทอยู่ที่ดอลลาร์ละ 20 กว่าบาท คิดเป็นเงินไทยก็ไม่กี่แสนบาทเท่านั้น


"ฮาร์เลย์ที่ญี่ปุ่นคนก็นิยมกันมาก และคนญี่ปุ่นจะเปลี่ยนรถเร็ว ใช้แค่ 5-6 เดือนก็เปลี่ยนคันใหม่แล้ว"


 ด้วยความประทับใจในทุกๆ ส่วนของฮาร์เลย์ ซึ่งยังคงเอกลักษณ์ตามแบบเฉพาะของฮาร์เลย์เอาไว้ ทั้งตัวถัง เรือนไมค์ ฯลฯ ฮาร์เลย์แต่ละรุ่นจะปรับเปลี่ยนใหม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ว่าเป็นรถมือสองจากญี่ปุ่น แต่ด้วยความเป็นฮาร์เลย์ พ.ต.อ.ทักษิณ จึงใช้รถคันแรกในชีวิตนานถึง 7 ปี ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้รถตระกูลทัวริ่ง เป็นระบบคาร์บูเรเตอร์ ทว่า ไม่ค่อยมีโอกาสได้ขี่ จึงมีปัญหาเรื่องการสตาร์ทเครื่องบ่อยๆ ดังนั้นจึงหันมาใช้รถระบบหัวฉีดคันล่าสุด "โรดคิงส์" หรือราชาแห่งท้องถนน ปี 08 นั่นเอง


"ตอนที่มีรถคันแรก ผมล้างรถเองนะ ช่วงนั้นกำลังเห่อของใหม่ เสียเวลาไปครึ่งค่อนวัน แต่ก็มีความสุข มีสมาธิดี เพราะอยู่กับสิ่งที่เราชอบ" รองผู้การฯ 9 บอกยิ้มๆ 


ตอนนี้นายตำรวจหัวใจฮาร์เลย์ไม่ได้ลงมือทำความสะอาดรถคู่ใจด้วยตัวเองแล้ว เนื่องจากการล้างฮาร์เลย์มีความละเอียดอ่อน และยุ่งยากกว่าการล้างรถยนต์มาก ต้องใช้เวลาและเครื่องมือเฉพาะในการทำความสะอาด ต้องมีเครื่องเป่าลมร้อนไล่คราบน้ำ ประกอบกับภารกิจจากหน้าที่การงานที่บีบรัดตัว จึงต้องนำรถคันโปรดมาฝากล้างทำความสะอาดที่ร้านนี้เป็นประจำ


นอกจากจะมาพบปะพูดคุยสัพเพหระกับกลุ่มเพื่อนหัวใจฮาร์เลย์เป็นประจำเกือบทุกอาทิตย์แล้ว พ.ต.อ.ทักษิณ ยังได้อัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวของชมรมอิมมอร์ทอลอยู่เสมอ ล่าสุดคาราวานฮาร์เลย์ของชมรมกำลังจัดกิจกรรมการกุศล นำโดย "เล็ก คาราบาว" ไปทำบุญช่วยเหลือเด็กที่บ้านฉาง จ.ระยอง แต่น่าเสียดายที่ติดภารกิจ ทำให้ รอง ผบก.น.9 ไม่มีโอกาสปลีกตัวไปร่วมงานบุญครั้งนี้ ทำได้เพียงส่งใจไปช่วยแค่นั้น


แต่งานชุมนุมพลพรรคคนรักฮาร์เลย์ครั้งสำคัญ ที่นายตำรวจหัวใจฮาร์เลย์คนนี้ไม่เคยพลาดเลยคือ งาน "Chaing Mai Bike Week" ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี แม้จะติดภารกิจไปดูงานต่างประเทศช่วงนั้นเขาก็พร้อมจะปฏิเสธ !?!


"ต้นเดือนธันวาคมนี้ ผมจะเดินทางไปร่วมงานไบค์วีคที่เชียงใหม่ ผมวางแผนลาพักร้อนไว้แล้ว กะว่าจะแวะไปเที่ยว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ก่อนไปร่วมงานที่เชียงใหม่ ปีที่แล้วกลุ่ม แอ๊ด คาราบาว เป็นคนจัดงานก็ไป ทำการกุศลเยี่ยมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ไปทำบุญตามวัดต่างๆ การเดินทางของกลุ่มอิมมอร์ทอลจะมีรถฮาร์เลย์ประมาณ 70-80 คัน และรถประเภทอื่นๆ ร่วมเดินทางด้วยกัน"


ระหว่างการเดินทางไกลกว่า 700 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ สู่ดินแดนอารยธรรมล้านนา สิงห์ฮาร์เลย์ต้องใช้ชีวิตอยู่บนเบาะมอเตอร์ไซค์ท่ามกลางสายลมและแสงแดด บางครั้งอาจจะฝ่าลมฝนปนบ้างประปราย กระนั้น พ.ต.อ.ทักษิณ บอกได้เพียงว่า สนุก มีแต่เรื่องเฮฮาตามประสาคนคอเดียวกันตลอดทาง


มีบางครั้งเหมือนกันที่รองผู้การฯ 9 เดินทางไปกับฮาร์เลย์คันโปรดเพียงลำพัง ปลดปล่อยตัวเองให้โลดแล่นไปตามถนนใหญ่ สายยาว อย่างถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ถนนเกษตร-นวมินทร์ บางทีก็อาจวิ่งยาวไปถึงกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา หรือ จ.สิงห์บุรี หากมีนัดหมายกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน นายตำรวจหัวใจฮาร์เลย์บอกในสิ่งที่ไบเกอร์ทั้งหลายพร่ำบอกกับตัวเองและผู้อื่นว่า "ตั้งใจซื้อมาขี่ไม่ได้ซื้อมาเก็บ" ดังนั้น ยามใดที่ว่าง ยามใดที่โหยหากลิ่นอายของสายลม แสงแดด และความเร็วบนพาหนะสองล้อ ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใสไร้พยับฝนก็พร้อมจะลุยไปทุกที่


แต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยทำเลยก็คือ ขี่ฮาร์เลย์ฝ่ารถติดไปทำงาน เหตุที่มอเตอร์ไซค์ตระกูลอเมริกันคันนี้ไม่ชอบรถติด เพราะจะทำให้เครื่องร้อนจนน็อกได้ ไม่เชื่อลองถามเพื่อนๆ พี่ๆ ในชมรมอิมมอร์ทอลดูได้ เมื่อครั้งตั้งขบวนไปรับ "สมจิตร จงจอหอ" ยอดมวยสากลสมัครเล่น วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิก 2008 ครั้งล่าสุด ดูได้ พอเข้ารอบในกรุงเทพฯ เท่านั้น ต้องหลบจอดกันเป็นแถว (อิอิ)


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์