ตลาดหุ้นในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ร่วงต่อ

ตลาดหุ้นในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ยังคงร่วงต่อในวันนี้ โดยเฉพาะดัชนีนิกเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ที่ดิ่งลงกว่าร้อยละ 7 ในการซื้อขายเมื่อช่วงเช้า แต่หลังจากนั้นก็ไต่ระดับขึ้นมา จนลดลงเหลือแค่ร้อยละ 4.35 ก่อนช่วงพักเที่ยง

ตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงมาจากปัจจัยความซบเซาของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลให้ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ทั้งโตโยต้า และอีซูซุ มอเตอร์ส ต่างปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรประจำปี ส่วนดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ดิ่งลงร้อยละ 3.8 ทันทีที่เปิดตลาดวันนี้ เช่นเดียวกับดัชนี S&P/ASX200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียที่ดิ่งลงร้อยละ 4.1 ก่อนช่วงเที่ยงวัน

ตลาดหุ้นในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ร่วงลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งเมื่อวานดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลงเกือบร้อยละ 5 เช่นเดียวกับตลาดหุ้นแห่งสำคัญในยุโรป ทั้งที่ลอนดอน ปารีส และแฟรงค์เฟิร์ตที่ดิ่งลงอย่างหนักเช่นกัน

ขณะที่มีรายงานว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งในวันนี้ มาอยู่ที่ร้อยละ 4 ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ต่ำที่สุดของเกาหลีใต้นับจากเดือนกุมภาพันธ์ 2549 ทั้งยังเป็นการลดดอกเบี้ยรอบที่ 3 แล้ว ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการลดดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ ก็เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังซบเซาให้คึกคักขึ้น

ขณะที่เมื่อวานธนาคารกลางอังกฤษก็ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวดเดียวร้อยละ 1.5 มาอยู่ที่ร้อยละ 3 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 53 ปี เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรปที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.50 มาอยู่ที่ ร้อยละ 3.25

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็เห็นด้วยที่ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่มองว่าจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการอีกหลายอย่างเข้ามาช่วยเสริม ทั้งยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วจะหดตัวลงตลอดช่วงปีหน้า