มะกันให้น้ำหนัก แรงงาน-สวล. หวั่นไทยถูกเพ่งเล็ง

วันนี้ (6 พ.ย.) นายประมนต์ สุธีวงศ์  ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึง นโยบายของนายบารัก โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ  คนใหม่ กับผลกระทบที่จะเกิดกับประเทศไทยว่า

ไม่เชื่อว่านโยบายเศรษฐกิจของนายโอบามาจะกีดกันทางการค้า ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่ว่าประธานาธิบดีคนไหน หรือผู้นำคนไหนของโลกคงไม่ทำแบบนั้นแน่ 

“การฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่โอบามาจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก คือการอัดฉีดเงินภายในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ให้เกิดขึ้น เพราะการค้าในสหรัฐฯ เองใหญ่โตมหาศาลอยู่แล้ว การค้าระหว่างประเทศไม่ได้เป็นหลักใหญ่ที่จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นหรือไม่ฟื้น” ประธานสภาหอการค้าฯ กล่าว และเชื่อว่า การกีดกันทางการค้าจะไม่ใช่เป้าหมายแรก สิ่งที่ต้องทำคือ การอัดฉีดเงิน ให้คนมีโอกาสทำธุรกิจมากขึ้น

นายประมนต์ กล่าวถึงการที่สหรัฐฯ จะมีการเก็บภาษีเพิ่มกับธุรกิจที่ไปลงทุนนั้น
 
ไทยมีผลกระทบน้อยมาก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯมาลงทุนในประเทศไทย ไม่ได้ลงทุนเพื่อนำเอาผลิตภัณฑ์ไปส่งต่อเข้าสหรัฐฯ มากมายนัก 2 ประเทศที่จะโดนผลกระทบ คือ จีนและอินเดีย เนื่องจากได้รับอานิสงค์จากเอาท์ซอสซิ่งจากสหรัฐฯ ไปประเทศเหล่านี้

“ไม่ได้หมายความว่าไทยไม่ได้รับผลกระทบ อาจมีบ้าง เช่น ธุรกิจคอมพิวเตอร์ เป็นต้น ผมคิดว่า มีผลกระทบ แต่ไม่รุนแรงอย่างที่หลายๆ ประเทศอาจโดนโดยตรง” นายประมนต์ กล่าว

ประธานสภาหอการค้าฯ กล่าวด้วยว่า

การค้าที่ไทยมีกับสหรัฐฯ อยู่แล้ว จะมีบางเรื่อง เช่น เรื่องการใช้แรงงาน ความเป็นธรรม ไทยอาจถูกเพ่งเล็งว่า ไทยได้ให้ความเป็นธรรมกับแรงงานต่างชาติหรือไม่ และเรื่องมลภาวะ สหรัฐฯ จะมีมาตรการเข้มงวดมากขึ้น ฉะนั้นสิ่งใดก็ตามไม่ส่งเสริม หรือลดผลกระทบภาวะโลกร้อนลง อาจมีมาตรการทำให้ต้นทุนสูงขึ้นได้