นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีที่มีแนวคิดจะเข้าไปรับซื้อข้าวขาวจากเวียดนามมาบริหารจัดการเองเพราะมีกระแสข่าวว่ามีราคาเพียงตันละ 400 เหรียญสหรัฐ ว่า
ที่ผ่านมามีพ่อค้าส่งออกข้าวได้ออกมาสร้างกระแสว่าเวียดนามได้กดราคาข้าว เพราะต้องการ ให้รัฐบาลเร่งระบายข้าวในราคาถูกกว่าต้นทุนที่ รับจำนำมาในราคา 12,000 บาทต่อเกวียน หรือคิดเป็นข้าวสารตันละ 23,000 บาท เพื่อกินกำไรส่วนต่าง ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจนแล้วพบว่าข้าวขาวที่เวียดนามนำออกขายในราคาตันละ 400 เหรียญนั้นเป็นข้าวขาว 20% ที่นำไปใช้ เลี้ยงหมูหรือข้าวหมู แต่บางประเทศมีความจำเป็นต้องการข้าวประเภทนี้ ไม่ใช่ข้าวขาว 5% ที่มีราคาต้นทุนตันละ 23,000 บาทหรือ 650 เหรียญสหรัฐ แต่อย่างใด
“ที่ผ่านมาผู้ส่งออกให้ข่าวไม่หมดแล้วมีการจับแพะมาชนแกะ โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่สามารถขายข้าวให้เอกชนในราคาต่ำกว่าตันละ 650 เหรียญสหรัฐได้ แต่ถ้าผู้ส่งออกต้องการลดต้นทุนด้วยวิธีอื่นรัฐบาลก็ยินดีช่วยเหลือ เช่น การขยายเครดิตไลน์ เป็นต้น”
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งดำเนินการเพื่อระบายข้าวที่อยู่ในสต๊อกเก่าออกให้หมดเพื่อรองรับปริมาณข้าวนาปีที่กำลังจะออกเต็มที่ในวันที่ 15 พ.ย.นี้
หากเป็นข้าวลอตเดิมจำนวน 2.1 ล้านตันที่รับจำนำมาตั้งแต่ปี 47-50 ในราคาตันละ 6,000-7,000 บาท รัฐบาลสามารถขายในราคาต่ำได้เพราะเป็นข้าวเก่าที่คุณภาพด้อยลงไป หรือหากนำไปผสมกับข้าวนาปรังที่เพิ่งรับจำนำไปเมื่อเดือน พ.ค. ก็สามารถขายถูกได้ แต่หากเป็นข้าวใหม่นาปีที่เพิ่งรับจำนำราคาที่ขายต้องสูงกว่าตันละ 23,000 บาท.