ศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐ 2008 ถึงวันสุดท้ายของการหาเสียงก่อนลงคะแนนอังคาร 4 พ.ย.นี้ “บารัค โอบามา”
ลุ้นสุดตัวหวังเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ ขอคะแนนอเมริกันชนช่วยกันเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ที่ยิ่งใหญ่เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศและโลก ทิ้งทวนถล่มคู่แข่งในเรื่องเศรษฐกิจและสงครามในอิรักที่ไม่มีวันอวสาน ด้านโพลทุกสำนักเห็นตรงกันว่า ผู้สมัครจากเดโมแครตพิชิต “จอห์น แมคเคน” จากรีพับลิกันสู่ประมุขทำเนียบขาว
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองแจ๊คสันวิลล์รัฐฟลอริดาประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ว่า นายบารัค โอบามา วุฒิสมาชิกวัย 47 ปีจากรัฐอิลลินอยส์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต
ได้สิ้นสุดการหาเสียงที่รัฐฟลอริดาก่อนที่จะมีการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกันในวันอังคารที่ 4 พ.ย. ตามเวลาในสหรัฐ โดยตั้งความหวังเอาไว้ว่าจะเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ แล้วคะแนนนิยมของเขาจากการสำรวจความคิดเห็นหรือโพลก็ยิ่งทิ้งห่างคู่แข่งอย่างนายจอห์น แมคเคน วุฒิสมาชิกวัย 72 ปี จากรัฐอริโซนา และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน
นายโอบามากล่าวในบทความที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล ฉบับวันจันทร์ว่า นี่คือช่วงเวลาสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา
วันพรุ่งนี้ตนอยากขอให้คนอเมริกันช่วยกันเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ที่ยิ่งใหญ่ หากชาวอเมริกันเลือกตนไม่เพียงแต่ทำให้ตนชนะเลือกตั้ง แต่เราจะไปด้วยกันในการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้และเปลี่ยนแปลงโลก แต่ก่อนหน้าปิดฉากหาเสียงที่รัฐฟลอริดานั้น นายโอบามาพร้อมสมาชิกในครอบครัว ประกอบด้วยภรรยา นางมิเชลล์ และลูกสาว 2 คนได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงที่เมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ โดยมีร็อกเกอร์รุ่นเดอะอย่าง บรูซ สปริงส์ทีน ร่วมหาเสียงสนับสนุนให้ด้วย ท่ามกลางผู้สนับสนุนร่วม 80,000 คน โดยกล่าวว่า ทุกอย่างดูดีขึ้น ทุกคนมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เพราะคงจะเริ่มคิดได้แล้วว่า เราจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งในวันที่ 4 พ.ย.นี้ นายโอบามายังได้โจมตี คู่แข่งเกี่ยวกับปัญหาวิกฤติการเงินของสหรัฐว่า นโยบายเศรษฐกิจของนายแมคเคนก็ยิ่งสานต่อวิกฤติเศรษฐกิจของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ให้เลวร้ายไปอีก รวมถึงสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดในอิรัก และสถานการณ์สู้รบในดินแดนของประเทศอัฟกานิสถาน