แรงงานปัดฝุ่นแผนปฏิบัติการรับมือว่างงาน

กระทรวงแรงงาน สั่งปัดฝุ่น แผนปฏิบัติการบรรเทา ปัญหาการว่างงาน ปี 40 มาใช้ใหม่ เผย เตรียมนัดถก ส.อ.ท.-นักวิชาการ-นายจ้างส่งออก รับมือวิกฤติเลิกจ้าง

ยันแรงงานไทยในสหรัฐ-ญี่ปุ่นยังไม่กระทบ ด้าน ปลัดมหาดไทย จัดโครงการ “มท.รับคนตกงานกลับบ้าน” สั่งผวจ. เตรียมรับมือพิษเศรษฐกิจ
 

เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่กระทรวงแรงงาน นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์การเลิกจ้างงาน ว่าขณะนี้ตัวเลขการเลิกจ้างล่าสุดยังไม่เปลี่ยนแปลงจากที่เคยแจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการติดตามสถานการณ์การเลิกจ้าง (วอร์รูม) เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง


โดยในเร็ว ๆ นี้ กระทรวงแรงงานจะเชิญสภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายจ้าง ผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ เช่น สิ่งทอ เฟอร์นิเจอร์ อัญมณี เครื่องประดับ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมส่งออกอื่น ๆ ตลอดจนนักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมาให้ข้อมูลเพื่อวางมาตร การรับมือปัญหาการเลิกจ้างอย่างเป็นระบบ


ขณะเดียวกันในวันที่ 10 พ.ย.นี้ กระทรวงจะเรียกหัวหน้าส่วนราชการแรงงาน 75 จังหวัดมารับมอบนโยบาย เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ด้วย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มอบนโยบายให้อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายแรงงาน (ทูตแรงงาน) ใน 11 ประเทศ ให้ติดตามสถานการณ์การจ้างแรงงานไทยในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เนื่องจาก ปัญหาการเลิกจ้างแรงงานส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยทูตแรงงานจะต้องมีหน้าที่วางยุทธศาสตร์ และหาตลาดแรงงานใหม่รองรับการเลิกจ้างงาน
 

อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีแรงงานไทยในประเทศที่ประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น เลิกจ้างแรงงานไทย ส่วนกรณีที่แรงงานไทยในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน มีตัวเลขการจ้างแรงงานลดลงนั้น มีสาเหตุจากแรงงานไทยถูกหักค่าหัว ในการเดินทางไปทำงานสูงถึงร้อยละ 25 ของรายได้ ขณะเดียวกันประเภท งานที่เมืองเกาสง เป็นงานที่คนไทยไม่ชอบทำเช่น งานอนุบาลผู้ป่วย หรือผู้สูงอายุ


ซึ่งกระทรวงแรงงานกำลังหาทางแก้ไขปัญหาอยู่ “ได้สั่งการให้สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ไปศึกษาแผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาการว่างงานเมื่อปี 2540 เพื่อนำกลับมาประยุกต์ใช้อีกครั้ง โดยจะมีมาตรการรับมือทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว 6 มาตรการ เช่น การจ้างงานในชนบท การส่งเสริมให้แรงงานไทย ไปทำงานต่างประเทศ และโครงการเศรษฐกิจพอเพียงเป็นต้น รวมทั้งจะพิจารณาตั้งคณะกรรมการบรรเทาปัญหาการว่างงานแห่งชาติ โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นกรรมการและเลขาฯ รวมทั้งมีผู้แทนจากทุก กระทรวงเป็นกรรมการเพื่อกำหนดนโยบายแก้ปัญหาแรงงานระดับชาติ”
 

ปลัดกระทรวงแรงงาน ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด) ขอให้ทบทวนมาตรการลดการจ่ายเงินสมทบฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง 1.5% และฝ่ายรัฐบาล 0.5% ว่า มาตรการดังกล่าวบอร์ดมองว่าลูกจ้างและนายจ้าง ได้ประโยชน์ไม่มากนัก จึงอยากให้มีการพิจารณาให้รอบคอบกว่านี้ รวมทั้งยังเสนอทางออกให้ขยายระยะเวลาการจ่ายเงินทดแทนกรณีผู้ประกันตนว่างงานจาก 180 วันออกไปอีก ซึ่งจะช่วยผู้ประกันตนที่ว่างงานได้มากกว่า


อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวบอร์ดจะต้องมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง ที่กระทรวงมหาดไทยวันเดียวกัน นายพีรพล ไตรทศาวิทย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวในการมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ตอนหนึ่งว่า ขอให้ผู้ว่าฯ ขยายผลโครงการพระราชดำริให้เป็นรูปธรรม โดยจะนำมาพิจารณาในการประเมินผลการทำงานของผู้ว่าฯ ด้วย ทั้งนี้ให้มีการตั้งคณะกรรมการติดตามการขยายผลโครงการพระราชดำริในทุกจังหวัดด้วย


โดยในส่วนกลาง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทยจะเป็นประธานคณะกรรมการ นายพีรพล กล่าวต่อว่า ฝากผู้ว่าฯดูแลในเรื่องเศรษฐกิจซึ่งในปีหน้าจะแย่มาก จะมีคนตกงานในจังหวัดของท่านเป็นจำนวนมาก ขอให้นำคนเก่ง ๆ มาช่วยพิจารณาว่าจะสามารถนำพื้นที่สาธารณะที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าทั้งของทางราช การ และที่แต่ละอำเภอดูแลอยู่มาดำเนินโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการจัดทำสาธารณูปโภคและแปลงเพาะปลูกเตรียมไว้ เพื่อรองรับคนที่ออกมาขายแรงงานในพื้นที่อื่น เมื่อกลับบ้านไปจะไม่ตกงานได้อย่างไร ทั้งนี้ให้ผู้ว่าฯเช็กยอดจำนวนประชาชนที่ออกมาขายแรงงานนอกจังหวัดว่ามีจำนวนเท่าไร เพื่อนำไปจัดทำโครงการมหาด ไทยประกาศรับผู้ตกงานกลับบ้าน.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์